หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

รายงานการประชุม ครั้งที่๕







บันทึกบุญ ครั้งที่ ๒
วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๑
ผู้ร่วมทางบุญ ๑. คุณสุประวัติ ๒. คุณโชติหิรัญ ๓. คุณจินตหรา ๔.คุณนนท์ ๕.คุณชาญวุฒิ

  1. การเดินทางแบ่งออกเป็น ๒ ขบวน โดยขบวนแรกนัดกันที่บ้านพ่ออี๊ด มีคุณโชติหิรัญ และผม ขบวนที่สองมี คุณแหม่ม จินตหราและคุณแป้ง นนท์ นัดกันที่ บองมาเช่ เราออกเดินทางประมาณ ๑๑.๓๐ น. โดยจะไปพบกันที่ วัดพระพุทธฉาย วันนี้เรานัดผู้ใหญ่ไว้หลายท่านเช่น นายอำเภอ กำนัน ปลัด ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงคณะสงฆ์ เพื่อคุยเรื่องความคืบหน้าของงานบุญเรา
  2. ประมาณ ๑๓.๓๐ น. พวกเราก็เดินทางมาถึงวัดพระพุทธฉาย เพื่อกราบนมัสการท่านเจ้าคุณ หลวงพ่อฤษีและเจ้าอาวาสวัดเขาขี้เหล็ก สักพักคุณชายชาญ เอี่ยมเจริญท่านนายอำเภอแก่งคอย มาพร้อมคุณนาย ดูท่านมีอัธยาศัยดีมาก ยิ้มแย้มตลอดเวลา หลวงพ่อบอกว่า ถ้าลองท่านนายอำเภอมาเองแบบนี้ ก็หายห่วง
  3. ท่านนายอำเภอบอกว่า ตอนนี้ถนน BYPASS ใกล้เสร็จแล้ว สายนี้จะไปวัดเขาขี้เหล็กได้สะดวกมาก เราก็เลยต้องทำแผนที่ใหม่เพิ่มทางถนน BYPASS อีกสายหนึ่ง
  4. ประมาณ ๑๔.๐๐ น. คุณแหม่ม จิน และคุณแป้ง นนท์ ได้เดินทางมาถึง
  5. พ่ออี๊ดได้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้ไปร้องเพลง ราตรีประดับดาว ที่ศาลาเฉลิมกรุง มีคนฝากเงินมาทำบุญเยอะมาก ทั้งๆที่บอกว่าอย่าเพิ่งให้ตอนนี้เพราะมิสะดวกที่จะจด แต่ผู้มีจิตศรัทธาเหล่านั้นก็มิได้นำพา ต่างพากันไปยืนรอที่ทางออก เพื่อที่จะมอบเงินทำบุญให้ได้ พ่ออี๊ดก็รับไว้ด้วยความขอบคุณ รวมๆก็หลายหมื่น จะ CLEAR กับพี่แป้งอีกที ดีใจที่มีคนร่วมโครงการนี้หลายฝ่าย เบาใจขึ้นเยอะ
  6. ท่านเจ้าคุณเสริมว่า ท่านเคยบอกตั้งแต่แรกแล้วไงว่า จะทำงานบุญ เป็นงานใหญ่ ถึงวัดมิเสร็จ ก็มิเป็นไร แต่ขอให้เอาคนที่สำเร็จในงานการ มาช่วยกันทำ มารวมๆกันก็พอแล้ว งานมันจะง่ายขึ้น
  7. เรื่องแรงงานที่จะเรียกมาใช้ เป็นทหารทั้งหมด ก็เลยเห็นว่า ต้องเพิ่มเอาชื่อของผู้ใหญ่ฝ่ายทหาร เข้าไปเป็นกรรมการด้วย
  8. พ่ออี๊ดบอกว่า บรรดาผู้ร่วมก่อการบุญเหล่านั้น จะมีชื่ออยู่ในชุดที่ ๒ พอถึงวันงานก็จะมีชื่อทั้งหมดว่า มีใครบ้าง ตอนนี้ก็ต้องรีบรวบรวมรายชื่อกัน
  9. ท่านเจ้าคุณบอกว่า ตอนจัดการเรื่องปลูกต้นไม้ จะให้ท่านนายอำเภอมาดูแลด้วย เน้นประหยัด ท่า
  10. นายอำเภอก็เสริมว่า เราต้องระวัง และเตรียมตัวเรื่องน้ำให้ดี
  11. ท่านเจ้าคุณบอกว่า เรื่องนั้น ผู้การพยนต์ได้รับปากว่าจะดูแลให้ โดยจะขุดบ่อ เตรียมน้ำ เพราะการปลูกต้นไม้ เราจะต้องรดน้ำ ดูแลอย่างดีไปอีกถึง ๒ ปี
  12. เมื่อถึงเพลานี้ พ่ออี๊ดก็เริ่มตีกลองประชุมอย่างเป็นทางการ โดยบอกว่า ในบริเวณที่จะปลูกต้นไม้ มีปัญหาเรื่องหินก้อนใหญ่ก้อนน้อยและก้อนปานกลาง ทำให้ระยะห่างในการปลูกต้นไม้อาจมิตรงไปตามตำแหน่งที่ดุ๊ก ได้วางไว้ รวมถึงเรื่องตอไม้ใหญ่ๆ ต้องพึ่งทางนายอำเภอและทางวัดให้จัดการ
  13. ท่านชายชาญถามว่า ในวันงาน จะมีดาราและประชาชนมาร่วมงานถึง ๒๐๐-๓๐๐ คนหรือ
  14. พ่ออี๊ดตอบว่า น่าจะถึง เพราะหลายคนได้รับปากกันไว้แล้ว คาดว่าน่าจะตื่นกันมาทัน ส่วนวิธีปลูก ดารา ๑ คน อาจได้คนละ ๓ ต้น เรื่องเงิน แล้วแต่จะบริจาค อาจทำพิธีรับมอบต้นไม้ ถ่ายรูปตรงจุดนั้นเลย แต่ต้นไม้ที่จะปลูกจริง ได้เตรียมไว้ที่หลุมแล้ว มิต้องแบกต้นไม้ไปให้หนัก
  15. ท่านชายชาญบอกว่า เรื่องอาหาร จะติดต่อส้มตำ ไก่ทอด ข้าวมันไก่ เอาเจ้าอร่อยของที่นี่มาให้ได้ลิ้มรสกัน แต่ต้องเช็คก่อนว่า เป็นเจ้าเดียวกับที่ทางเรา (ก่อการบุญ) ได้ไปติดต่อไว้หรือเปล่า ถ้าใช่ ทางเราจะได้ยกเลิกไป ให้ท่านนายอำเภอติดต่อแต่ฝ่ายเดียว
  16. พี่แป้งบอกว่า ด้านจานชาม ทางดุ๊ก ภาณุเดช จะติดต่อเอาจากเพื่อนมาให้ เอาแบบที่ย่อยสลายได้ มิเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมและมิก่อให้เกิดมลภาวะ ทุกคนเห็นควรด้วย
  17. พ่ออี๊ดบอกว่า ตอนแรกจะมีการรำเปิดหน้าดินโดยนักแสดงหลายคน แต่นักแสดงหลายคนติด เช่น บางคนต้องไปยืดเอว(ด้วยวัยอันสูง) บางคนติดคิวละครหลายเรื่อง บางคนมิมีเวลามาซ้อมแต่จะขอมารำวันจริงเลย ซึ่งเราก็หายอมไม่ จึ่งตัดปัญหา ใช้เด็กนาฏศิลป์ รำแทน
  18. ท่านชายชาญบอกว่า ตามที่ดูในแผนผัง เต็นท์นั้นน้อยเกินไป น่าจะเพิ่มตรงโซนหน้าโบสถ์ เพื่อให้ชาวบ้านได้มาอยู่รวมกัน น่าจะประมาณ ๒ ถึง ๓ เต็นท์ เป็นหย่อมๆ ใช้เต็นท์ขนาด ๔X๖ จำนวนเท่าไหร่นั้น ดูตามความสวยงาม
  19. พี่แป้งบอกว่า เราจะกั้นอาณาเขตระหว่างแขกผู้ใหญ่ นักแสดง และประชาชน มิให้ปะปนกัน ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของเหล่าดารานักแสดงทั้งหลาย
  20. ท่านชายชาญ จะติดต่อประสานเรื่อง รถสุขา ส่วนที่จอดรถ จะให้จอดที่วัดบ้านไร่ ใช้รถตู้ขนถ่ายขึ้นไปที่งาน ส่วนข้างบนวัด จะมิมีการจอดรถบนบริเวณงาน
  21. แหม่ม จินตหราบอกว่า แขกผู้อาวุโส อาจให้รถส่วนตัว หรือรถตู้ ขับขึ้นไปส่งถึงที่งานเลย เพราะผู้สูงวัยจะเดินเยื้องย่างขึ้นเขาลำบาก ที่ประชุมเห็นควรด้วย
  22. ท่านเจ้าคุณบอกว่า เรื่องจดหมายเชิญ ถ้าในเขตอำเภอ หรือหน่วยงานราชการต่างๆ ก็ให้ท่านนายอำเภอลงชื่อท้ายจดหมายไปเลยก็ดี จะดูสะดวกกว่า เช่น อ.บ.ต.โรงพยาบาล รถสุขา ให้ออกจดหมายขอความร่วมมือในนามของนายอำเภอเลย ทุกคนเห็นควรด้วย
  23. พ่ออี๊ดเสริมว่า ถ้าอย่างนั้น จดหมายเรียนเชิญของท่านนายอำเภอคงมิต้อง เพราะท่านมารับรู้ และเป็นหนึ่งในกรรมการก่อการบุญด้วยแล้ว
  24. พี่โชติหิรัญบอกว่า เราน่าจะมีป้ายบอกทางเพิ่ม เช่น ที่จอดรถ , ห้องน้ำ , ที่ลงทะเบียน และทำแผนผังรวมคร่าวๆของงาน ส่วนเครื่องหมายที่จะสำแดงให้เห็นว่าใครเป็นกรรมการ เช่น เสื้อ หรือป้ายคล้องคอ ก็ต้องกำหนดมาให้ชัดเจน จะได้แบ่งแยกถูก แขกที่มาก็จะมิงุนงงว่า ควรจะไต่ถามที่ใคร
  25. ส่วนเรื่องคนที่จะคอยต้อนรับขับสู้ ต้องมีตัวแทนที่อยู่รวมกันทั้งสามฝ่าย เป็นเสมือนศูนย์กลางของการประสานงาน กล่าวคือ ฝ่ายก่อการบุญ , ฝ่ายคณะสงฆ์ และฝ่ายนายอำเภอ
  26. ท่านเจ้าคุณบอกว่า ทางพิธีสงฆ์ท่านจะอาราธนาอนุศาสตร์(แปลว่าอันใดกระผมก็หารู้ไม่ จะถามก็กลัวจะเสียการ กระผมก็เลยได้แต่พยักหน้ารับประหนึ่งว่าเข้าใจ)
  27. ท่านชายชาญบอกว่าจะจัด อปพร. ประมาณสิบนายคอยชี้ทางให้รถ โดยจะให้ไปจอดที่วัดบ้านไร่และโรงเรียนเท่านั้น เพลาเช้า ตัวท่านจะติดราชการในจังหวัด จะมาร่วมงานได้ในเพลาบ่าย แต่จะเจอกันก่อนวันงาน และขอแจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้ ฝ่ายกำนันและผู้ใหญ่บ้านทั้งหลายได้รอพวกเราอยู่ที่วัดขี้เหล็กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  28. ส่วนเรื่องป้ายบอก ป้ายห้ามจอดรถ ทางอำเภอจะรับไปทำ
  29. หลวงพ่อฤษีบอกว่า เต็นท์ของพิธีสงฆ์ยังมิมี
  30. พี่แป้งบอกว่าจัดไว้ในทำพิธีศาลา
  31. หลวงพ่อแย้งว่าในศาลาจะทึบไป ไม่โปร่ง ไม่เหมาะสำหรับงานมงคล คณะสงฆ์น่าจะออกมาทำพิธีข้างนอก ทุกคนเห็นด้วย สถานที่ตั้งเต็นท์ ให้นายอำเภอเป็นคนจัดการ ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีสงฆ์ทางวัดจะจัดการให้
  32. พ่ออี๊ดบอกว่า พระสงฆ์เดิมทีประมาณว่าจะนิมนต์พระมา ๓๐ รูป มาคิดดูแล้วควรจะลดพระเหลือ ๙ รูปเพราะเลขสวย และเพื่อเป็นสิริมงคล อย่าลืมให้ฝ่ายก่อการบุญ เตรียมเครื่องไทยทานถวายพระด้วย
  33. พี่โชติหิรัญบอกว่า ขอให้ดุ๊กมากำหนดจุดที่จะปลูกต้นไม้ เพราะทางวัดจะได้ขุดถูกที่ถูกตำแหน่ง อยากให้มาดูที่จริง(ด้วยเหตุของพื้นดินบางส่วนเป็นหิน) หรือจะมาเอาไม้ไปปักไว้ก็ยังดี การนี้ทางวัดจะเตรียมไม้ไผ่ไว้ให้
  34. แป้งบอกว่า ต้องนัดดุ๊กให้มาดูก่อนสิ้นเดือน จะให้ดุ๊กประสานกับทางท่านนายอำเภออีกครา
  35. ท่านชายชาญบอกว่า ในวันงาน เราน่าจะมีไม้ค้ำน้อยเผื่อไว้ด้วย ไว้เวลาปลูกต้นไม้จะได้ใช้ไม้ค้ำน้อยค้ำยันต้นไม้ไว้มิให้ล้ม(มีเชือกผูกด้วยก็ดี)
  36. คุณโชติหิรัญ พูดถึงการรดน้ำเมื่อปลูกเสร็จ มิต้องซื้อกระบวยเพราะจะเป็นการสิ้นเปลือง ใช้ครั้งเดียว ขอเสนอทางออกโดย ใช้น้ำขวดที่เราดื่ม รดไปเลยจะง่ายและประหยัดกว่า
  37. พ่ออี๊ดบอกว่า อาจจะต้องทำบัตรจอดรถ VIP มิเกิน ๑๐ ใบ และเผื่อให้รถน้ำ (รถโค๊ก) ด้วย สำหรับเข้ามาจอดบริเวณวัด
  38. ท่านชายชาญบอกว่า อาจจะไถที่เพิ่มตรงบริเวณทางขึ้นเชิงเขาเพื่อให้จอดรถได้จำนวนมากขึ้น
  39. แป้งบอกว่า เรื่องน้ำดื่มส่วนกลางจะใช้แก้วเล็กๆ แจกเลย(แก้วโค๊ก) ประมาณ ๒,๐๐๐ ใบ ต้องประสานเพิ่มอีกเพราะเดิมทีตกลงกันไว้ที่ ๑,๐๐๐ ใบและถ้ามีถังแช่ด้วยก็จะยินดียิ่ง
  40. พี่โชติหิรัญบอกว่า อากาศร้อนๆ ควรเตรียมผลไม้สดไว้ให้ผู้ใหญ่ด้วย อาจสั่งจากเกียวอันก็ได้
  41. เรื่องต้นไม้จะประสานกับดุ๊กโดยทำ Code แยกโซนปลูกเป็นสีๆ จะได้มิยุ่งยาก เช่น คนที่ได้บัตรสีชมพู สมมุติว่า เป็นสีสัญลักษณ์ของต้นกัลปพฤกษ์ ก็ต้องมองหาธงสีชมพูแล้วไปปลูก ณ บริเวณนั้น เป็นต้น เรื่องน้ำดื่มจะไปขอที่เบียร์ช้าง (ถ้าเป็นกระผม หากได้ไปขอที่เบียร์ช้าง ผมจะเลือกขอเบียร์มิขอน้ำเด็ดขาด แล้วค่อยเอาขวดเบียร์มาใส่น้ำอีกที)
  42. แผนที่ที่ฝ่ายเราทำถูกต้องตามโฉนดหรือไม่
  43. ท่านเจ้าอาวาสบอกว่า ถูกต้องตามโฉดที่ดินของวัดทุกประการ ท่านนายอำเภอรับทราบ
  44. พี่แป้งบอกว่าโต๊ะอาหารของ VIP มีทั้งหมด ๓ โต๊ะ สั่งมาจากเกียวอัน ส่วนของพระจะนิมนต์ท่านไปฉันในศาลา เรื่องโต๊ะวางอาหารของผู้ร่วมงานทั้งหมด ทางวัดจะจัดไว้ให้บริเวณในศาลาโรงครัว เลี้ยงเฉพาะทีมปลูกต้นไม้ดีไหม
  45. พ่ออี๊ดกับแหม่ม จินตหราแย้งว่า ไม่น่าจะแบ่งเขาแบ่งเรา เราควรจะเลี้ยงทุกคนที่มาในงาน แต่กระนั้นก็ดูให้หยิบแต่พอทาน มิใช่ทานทิ้งทานขว้าง
  46. หลวงพ่อบอกว่า ป้ายโฆษณาที่ออกแบบมาใช้ไม่ได้เพราะข้อความเยอะไป ต้องอ่านง่าย กระชับ ความยาว ไม่ควรเกิน ๔ บรรทัด และขอให้ออกแบบใบอนุโมทนาบัตรมาด้วย
  47. ส่วนลำดับพิธีสงฆ์ หลวงพ่อฤษีจะเป็นคนออกเอง
  48. กาลต่อมา ประมาณ ๑๖.๐๐น. เราก็ได้ย้ายพลไปยังวัดเขาขี้เหล็ก ที่นั่นเราก็ได้พบกับ
    ๑.ปลัดอำเภอ (ปลัดวินิจฉัย) ๒.กำนันตำบลห้วยแห้ง ๓.ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๗ ตำบลห้วยแห้ง ๔.ผู้ใหญ่รุ่งเรือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๓ ตำบลท่ามะปราง ทั้งหมดรอพวกเราด้วนท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส
  49. หลังจากที่ได้มีการปฎิสัณฐานกันพอควรแล้ว เราทั้งหมดได้เดินดูสถานที่ที่จะปลูกต้นไม้พร้อมๆกันอีกครั้งหนึ่ง และหาทำเลที่จะตั้งเต็นท์เพิ่มเติม
  50. ระหว่างนั้นกบ ปภัสราและลูกสาวน่ารัก ได้มาที่วัดเขาขี้เหล็กเพื่อมาถ่ายทำรายการ โดยมีคุณแหม่ม จินตหราเป็นผู้ให้ข้อมูล ทางทีมงานก่อการบุญ ขอขอบคุณกบ ปภัสรามากที่มาช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานบุญของเราครั้งนี้ กบตอบว่า “ก็กบเป็นกรรมการด้วยก็ต้องช่วยกันโฆษณาสิคะ” เออ...จริงแฮะ
  51. รายละเอียดของการตั้งเต็นท์และการปลูกต้นไม้จะเสนอในแผนผังอาณาเขตของวัดอีกทีหนึ่ง
  52. บัดนี้ ล่วงเลยมาเป็นเพลา ๑๗.๐๐ น. ทางคณะก่อการบุญก็ได้เดินทางกลับไปยังกรุงเทพฯ เพื่อดำเนินการสรุปกันต่อ ที่ไหนคงไม่ต้องเดา คือสีฟ้าจ้าเก่าเรานั่นเอง พ่ออี๊ดบอกว่าถ้าบอกชื่อร้านแล้วอย่าอ้วกนะ เรามาทานที่นี่กันบ่อยมากเพราะใกล้บ้าน เพลาฝนตก พ่ออี๊ดก็สามารถหาคนเปลี่ยนรถทัน แต่ครานี้ พ่ออี๊ดเอารถจอดไว้ที่บ้าน แล้วเดินกระหนุงกระหนิงมากับพี่นุชกัน ๒ คน (กลัวรถเปียก)
  53. ณ ร้านสีฟ้า เพลา ๑๙.๓๐ น. โดยประมาณ
    วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๑
    ผู้ร่วมประชุม ๑. คุณสุประวัติ ๒. คุณโชติหิรัญ ๓. คุณนีรนุช ๔.คุณนนท์ ๕.คุณชาญวุฒิ
    ส่วนน้องแหม่ม จิน ติดธุระด่วน มิสามารถมาร่วมประชุมได้ การประชุมสรุปได้ดังนี้
  54. ๑. ปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมเต็นท์ตามแผนผังแล้วสรุปส่งให้นายอำเภอ หลวงพ่อฤษีและแจง
  55. ๒. พิธีกรในวันงาน มี เหมี่ยว ปวันรัตน์ , แจง วราพรรณ และพี่โหน่ง วสันต์ เป็นพิธีกรช่วงก่อนพิธีการคอยให้ข้อมูลกับคนที่มาในงาน คอยเชื้อเชิญให้ร่วมทำบุญ และเชิญดารานักแสดงคนอื่นๆ ที่สนุกสนานมาช่วยเป็นพิธีกรได้ ส่วนพิธีกรช่วงพิธีการมอบหมายให้ดุ๊ก ภาณุเดช เป็นผู้รับผิดชอบ
  56. ๓. กำหนดการบุญ ให้ใส่ชื่อผู้แต่งเพลงด้วย
  57. ๔. จดหมายที่ออกจากคณะก่อการบุญ ที่จะต้องส่งเชิญผู้ใหญ่ทางราชการ โดยให้คุณแอ๊ด เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ เป็นผู้ลงนาม มีดังนี้
    · ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี
    · นายอำเภอแก่งคอย
    · นายก อบต.ห้วยแห้ง
    · ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ ๔ รักษาพระองค์
    · ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ ๕ รักษาพระองค์
    · หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ เขาสามหลั่น
    · นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี
    โดยจดหมายทั้งหมด ให้ส่งไปที่วัด แล้วทางวัดจะส่งต่อไปให้เอง
  58. ๕. จดหมายเชิญที่ออกจากคณะก่อการบุญ ที่จะต้องเชิญผู้ใหญ่ฝ่ายการแสดง ให้พ่ออี๊ด สุประวัติเป็นผู้ลงนาม
  59. ๖. จดหมายเชิญที่ออกจากคณะก่อการบุญ ที่จะต้องเชิญแขกที่เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง ไม่เป็นทางการ ให้พิมพ์ชื่อพ่ออี๊ด ลงนามตามนี้
    สุประวัติ ปัทมสูต
    ประธานผู้ก่อฯลฯ
  60. ๗. กรรมการที่ปรึกษาให้เพิ่มชื่อคุณโชติหิรัญ เปี่ยมสมบูรณ์ ลงไปด้วย
  61. ๘. เรื่องเครื่องดื่มโค๊ก ให้ปุ้ย ผอูน เป็นผู้รับผิดชอบ
  62. ๙. แผ่นพับเอาแบบที่มีชื่อผู้ก่อการบุญ เป็นแบบเชิญร่วมทำบุญ
  63. ๑๐. ประชุมย่อยวันพฤหัสที่ ๓๑ กรกฎาคม สถานที่จะแจ้งให้ทราบกันอีกที
  64. ๑๑. ประชุมใหญ่วันที่ ๘ สิงหาคม เพื่อแจกเสื้อและแจก Job Description
  65. ๑๒. วันที่ ๓๐ สิงหาคม Final แขก VIP จากพ่ออี๊ด


    ท้ายนี้ขอบพระคุณพ่ออี๊ดที่เลี้ยงข้าวพวกเราทั้งกลางวันและมื้อค่ำ
    ปิดประชุมเพลา ๒๒.๓๐ น. เพราะมิปิดมิได้ พนักงานเช็ดโต๊ะ เก็บโต๊ะกันเรียบร้อยแล้ว
    แก้ว ชาญวุฒิ
    ผู้จดบันทึก

วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

รายงานการประชุม ครั้งที่๔


รายงานการประชุม ครั้งที่ ๔/๒๕๕๑




เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๑


ผู้เข้าร่วมประชุม.พ่ออี๊ด.แม่นุช๓.ผู้การพยนต์ ๔.คุณโชติหิรัญ เกียรติสมบูรณ์ ๕. คุณชัยยันต์ ๖. อาสุเชาว์ ๗.พี่อุ้ย เกรียงไกร ๘. พี่เหมี่ยว ปวันรัตน์ ๙.พี่ดุ๊ก ภาณุเดช ๑๐. พี่แหม่ม จินตหรา ๑๑.พี่แป้ง นนท์ ๑๒.อ้อย


ผู้จดบันทึกการประชุม อ้อย


สถานที่ประชุม ร้านท่านหญิง สีลม (ของพี่อุ้ยเกรียงไกร) เบอร์ร้าน ๐๒-๒๓๖-๔๓๖๑


เริ่มประชุมเวลา ๒๐.๐๐ น. โดยสรุปเป็นหัวข้อดังนี้


เนื่องด้วยวันนี้มีทีมก่อการบุญคือ พ่ออี๊ด, อาสุเชาว์, พี่เหมี่ยว, พี่ดุ๊ก, พี่แหม่มจิน, พี่แป้งนนท์ ได้เดินทางไปวัดเขาขี้เหล็ก เพื่อประสานความคืบหน้า พอสรุปให้ที่ประชุมได้ฟ้งดังนี้

· พี่ดุ๊กสรุปเรื่องการปลูกต้นไม้ ๑๓-๑๔ ต้น/ตารางเมตร

· การปลูกต้นไม้ ให้ปลูกสับหว่างกัน

· ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เมื่อทางวัดถางหญ้าแล้ว ปรากฏว่า ก้อนหินเยอะมาก



ณ ร้านท่านหญิง สรุปได้ดังนี้
๑. พี่ดุ๊กเสนอให้ รถสุขาให้จอดทางเข้าวัด ขึ้น ลง ทางบันไดหลังวัด เป็นรถสุขาสำหรับบุคคลทั่วไป ส่วนสุขาของวัด มี ๔ ห้อง สงวนไว้ให้แขกสูงอายุ
  • คุณโชติหิรัญ จะขอยืมที่นั่งครอบโถส้วมวัดสำหรับผู้สูงอายุ
  • คุณโชติหิรัญ สามารถช่วยติดต่อหารถพยาบาลให้ได้ด้วย
๒. พี่ดุ๊กจะเป็นผู้จัดการออกแบบ พิมพ์ ทำป้ายเข้าวัด ธงทิวบอกทางเข้าวัด
๓. เรื่องปัญหา คำตอบการดูแลรักษา ภูเขา ต้นไม้หลังจากการปลูกวันที่ ๑๒ สค. ๕๑ มีผู้ให้ความเห็นดังนี้
  • คุณโชติหิรัญ มีประสบการณ์ กล่าวว่า ในฤดูร้อน ต้นไม้จะตาย ต้องจ่ายค่าดูแลรักษาสูงมากและดินบริเวณนั้นไม่มีแหล่งน้ำบาดาล
  • คุณดุ๊กบอกว่า ถ้าตายก็ไม่เป็นไร แก้ไขทีหลังได้ ซึ่งการปลูกต้นไม้ เราไม่คาดหวังว่าต้นไม้จะอยู่ได้ ๑๐๐% ที่หวังไว้ ๗๐% ก็น่าจะ O.K.
  • คุณชัยยันต์บอก อาจจ้างให้ชาวบ้าน คนในวัดเป็นผู้ดูแล อาจจะเหลือได้ประมาณ ๕๐%
  • คุณอาพยนต์ เห็นควรว่า ให้ทำบ่อน้ำ บ่อพักน้ำเพื่อกักน้ำให้เพียงพอสำหรับฤดูร้อน คุณอาพยนต์มีดำริจะซื้อที่ ๑-๒ ไร่ ด้านล่างวัดก็น่าจะดี
พ่ออี๊ดสรุปว่า อาจทำท่อพักน้ำแล้วดึงน้ำขึ้นมาอีกที ตรงนี้ให้ทางพี่ดุ๊กและ คุณไชยวัฒน์ (เพื่อนอาพยนต์ ผู้ดูแลเรื่องบ่อน้ำ)รวมทั้งอาพยนต์เป็นผู้จัดการ อาจจะประมาณ ๒๒กค. นี้ต้องไปวัดอีกทีหนึ่ง แล้วเรื่องนี้ต้องรถทางวัดเราทำรังวัดที่ดินด้วย
พี่แหม่มบอกว่าที่ดินตอนนี้ราคาแพงกว่าเดิมเยอะมาก
๔. เนื้อเพลงที่จะใช้ขับร้องในวันงาน พ่ออี๊ดบอกว่ามีท่านผู้หนึ่งแต่งมาร่วมด้วย (กว่าพ่ออี๊ดจะอ่านได้ต้องขอบคุณแว่นขยายของพี่แป้งที่ไปแลกจากพี่แก้วอันที่พี่ปุ้ยให้มา เฮ้อ...)แล้วก็อ่านให้พวกเราฟังในท่อนที่ ๒ (ตามรายละเอียดด้านล่าง) ซึ่งพ่ออี๊ดต้องการทั้งหมด ๗ บท แม่นุชบอกว่าจะนานไปหรือเปล่า พ่อบอกไม่นานหรอก แล้วแม่นุชเสนอว่าหลวงพ่อฤาษีท่านอยากได้เทพบันเทิงขึ้นต้น พ่ออี๊ดก็เลยสรุปเอาเทพบันเทิงขึ้นต้น โดย

ท่อนที่ ๑ เทพบันเทิง (ให้ป้าจุ๊แต่ง) โดยเนื้อหากล่าวถึงที่มาและที่ไป เช่น ที่แห่งนี้คือวัดเก่าเราต้อสร้าง


ท่อนที่ ๒ หม่อมหลวงจุลลา งอนรถ เป็นผู้แต่ง เนื้อหากล่าวถึงการปลูกต้นไม้ มีดังนี้


เริ่มด้วยการปลูกต้นไม้ให้งามงด กัลปพฤกษ์กำหนดทรงคุณค่า

แปดร้อยต้นภูมิทัศน์จัดแต่งมา และนำพาทุกดวงใจให้รวมกัน

ตรงนี้พี่ดุ๊กบอก "ถึงแม้เราเตรียมต้นไม้ ๘๐๐ แต่ก็ให้เป็นตัวเลข ๙๐๐ ต้นไปเลยจึงเปลี่ยนเป็น

เริ่มด้วยการปลูกต้นไม้ให้งามงด กัลปพฤกษ์กำหนดทรงคุณค่า

เก้าร้อยต้นภูมิทัศน์จัดแต่งมา และนำพาทุกดวงใจให้รวมกัน


ท่อนที่ ๓ เป็นเรื่องราวของต้นไม้เหมือนกัน เป็นบริวารของต้นกัลปพฤกษ์ ต้นไม้ที่ปลูกเสริมกัลปพฤกษ์ โดยให้พี่อุ้ย เกรียงไกร เป็นผู้แต่ง

"ว่าแล้ว พ่ออี๊ดซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะก็เรียกพี่อุ้ยซึ่งนั่งไกลถึงท้ายโต๊ะมาแต่งเพลง พี่อุ้ยบอกตอนนี้เลยหรือ พ่อบอกเอาตอนนี้เลย" / ตัดไป

"จากนั้นทุกคนก็วุ่นวายกับการหากระดาษความหมายของต้นกัลปพฤกษ์ ส่วนแม่นุชก็ไปหยิบพจนานุกรมเล่มใหญ่ยักษ์(แม่นุชบอกว่าที่บ้านยังมีใหญ่กว่านี้อีก หนุนนอนได้เลย)มาร่วมด้วยช่วยกัน จนเวลาผ่านไปขณะทุกคนยืนหากระดาษความหมายของต้นกัลปพฤกษ์กันอย่างวุ่นวาย ท้ายสุด ก็มาหยุดอยู่ตรงพี่อุ้ยซึ่งมือถือกระดาษที่เราหากันอยู่ กำลังทำสมาธิเป็นอย่างสูง ทุกคนโวยวายทำไมไม่บอกว่าเอากระดาษไป พี่อุ้ยบอกไม่เห็นได้ยินใครถามเลย แสดงว่ามีสมาธิในการแต่งกลอนเป็นเลิศ"

"เวลาผ่านไป ทุกคนคร่ำเครียด พ่อบอก จาก ๗ เหลือ ๕ บทน่าจะดีกว่า ให้ทุกคนช่วยกันแต่งดีกว่า ระหว่างนั้นพี่เหมี่ยว ซึ่งไปข้างนอกเดินเข้ามาบอกพี่อุ้ยว่า ขออนุญาตสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์หน่อยค่ะ แต่กลัวว่าจะไม่ดีเพราะคุยกันเรื่องศาสนาอยู่ แม่นุชบอกว่าตอนนี้ไม่เกี่ยวแล้ว เพราะตอนนี้พวกเรากำลังเป็นสุนทรภู่กันอยู่" (ดื่มแล้วจะสมองปราดเปรื่อง)

ท่อนที่ ๔ เนื้อหาเกี่ยวกับต้นไม้จุกจิกรอบๆ กัลปพฤกษ์ ชื่อต้นไม้เล็ก ต้นไม้น้อย

ช่วงนี้พี่ดุ๊กต้องขออนุญาตกลับก่อนเพราะพรุ่งนี้มีงานเช้า ต้องตื่นตี ๕

ท่อนที่ ๕ จะมาพูดถึงเรื่องของโบสถ์

แต่งกันมาแต่ละท่อน ทุกคนยิ่งเครียดกัน พี่เหมี่ยวเสนอ พ่อแย้ง จนพ่ออี๊ดบอกช่วยจดหน่อยจะได้รู้ว่าอยู่ท่อนไหนกัน พี่เหมี่ยวบอกไม่แต่งแล้วจะรำแล้ว เป็นที่สนุกกันไป

จนในที่สุดได้เนื้อเพลงดังนี้

ท่อนที่ ๑ รอป้าจุ๊แต่ง

ท่อนที่๒

เริ่มด้วยการปลูกต้นไม้ให้งามงด

กัลปพฤกษ์กำหนดทรงคุณค่า

เก้าร้อยต้นภูมิทัศน์จัดแต่งมา

และนำพาทุกดวงใจให้รวมกัน

ท่อนที่๓

ดุจดั่งเป็นเช่นสวรรค์วิมานสรวง

ชมพูพวงขาวแต้มแซมสีสัน

ดั่งทวยเทพเทวามาประทาน

ปกสถานขอบขัณฑสีมา

ท่อนที่๔

สารภี ขี้เหล็ก มะขามป้อม

ยมหอม ประดู่แดง ดาหลา
ต้นพริก จิกน้ำ กรรณิการ์

ดูช่อชู ตรูตา มวลมาลี


ท่อนที่๕

........คงมินาน

ณ พฤกษาสถานวิมานนี้
สิริอุโบสถบังเกิดมี

สระบุรีแห่งนี้สถิตย์นาน

๕. นัดเวลาการประชุมครั้งหน้า ยังคงกำหนดเป็นเป็นวันศุกร์ที่ ๑๘ กค. ช่วงเย็น ๆ เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. ส่วนวันที่ ๒๔ หรือ วันที่ ๓๑ ซึ่งยังกำหนดไม่ได้ว่าจะเป็นวันไหนที่จะต้องไปวัด โดยให้พี่แป้งเป็นผู้สรุปบุคคลที่จะไปในแต่ละวันให้กับทางพ่ออี๊ดทราบและเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเป็นวันไหน
๖. หัวข้อที่ต้องพิจารณากันต่อไป
  • พี่แป้งจะนัดวันประชุมกันอีกครั้ง
  • พี่แป้งประสานงานกับพี่กุ้งนางเรื่องเสื้อยืดที่จะใส่ในวันงาน
  • เนื้อเพลงที่ได้ในวันนี้ จะต้องไปใส่ดนตรีและให้ทางคุณละม่อมด้วย
  • เรื่องเบี้ยเลี้ยงที่ต้องให้ทหาร กำหนดไว้คนละ ๒๐๐บาท ส่วนนักเรียน คนละ ๑๐๐ บาท ทางเราจัดหาอาหารกล่องให้ด้วย ในเรื่องนี้ต้องปรึกษากับหลวงพ่อฤาษีอีกทีว่าจะให้อย่างไร
  • ค่าใช้จ่ายที่จะตามมา อาทิเช่น ค่าเช่าเต้นท์ , เครื่องเสียง มัดจำค่าอาหาร เป็นเหตุให้เงินไม่พอ ต้องลงขันเพิ่ม เนื่องจากได้มีการจ่ายให้ร้านเกียวอัน เป็นค่ามัดจำอาหารสำหรับเลี้ยงพระ ๗,๐๐๐บาท (อาหาร ของคาวหวาน ประมาณ ๗ อย่าง) ทั้งหมด ๗ ชุด ตอนนี้เงินเหลือประมาณ ๑๖,๐๐๐ บาท
  • พี่แป้งติดต่อพี่กบ ปภัสรา เรื่องอาหาร อาจขอสัก ๑ อย่าง เพราะข้าวเหนียวหมูปิ้ง อาจจะไม่พอ ต้องสั่งเพิ่มหรือหาเพิ่มกันอีก แต่ทั้งนี้ก็ต้องทราบจำนวนคนที่จะไปทำบุญปลูกต้นไม้ด้วย
  • พระที่จะเลี้ยงเพล ก็กำหนดไว้ ๓๐ รูป ตั้งเป็น ๖ วง วงละ ๕ รูป แต่ก็ต้องเผื่อไว้ด้วย ถ้าพระมาไม่ครบก็จะต้องนิมนต์มาให้ครบ
  • ให้ประสานกับทางวัดว่า พระมีจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยรถหรือเปล่า ซึ่งแม่นุชบอกว่าลองติดต่อทาง อ.บ.ต. เผื่อให้เขาช่วยได้
  • สถานที่จอดรถ ซึ่งกำหนดจุดเส้นตายว่า จุดไหนที่เข้าไม่ได้จริงๆ ใครจะเป็นผู้คอยบอก อาจเป็นลูกเสือ ซึ่งด้านบนรถจอดได้หรือไม่ อาจกำหนด ๑๕ คันจอดตรงไหนคือให้ถามพระเลยแบ่งเขตไว้เลย
  • อาหารที่เลี้ยงชาวทำบุญปลูกต้นไม้ คาดว่าข้าวเหนียวหมูปิ้งไม่พอ อาจหาก๋วยเตี๋ยวเพิ่ม หรือข้าวราดแกง จากท้องถิ่น
ทางผู้ว่าฯ เราจะทำหนังสือเชิญเข้าไปก่อน ซึ่งพี่เหมี่ยวบอกว่าถ้าจะเข้าไปพบก็ไปกับหลวงพ่อ ท่านจะไปด้วย หนังสือให้ออกจากทางเรา เพราะเป็นงานของเรา โดยคราวที่จะไป ต้องทำหนังสือเชิญ ๓ ฉบับ เนื้อหาข้างในเหมือนกันแค่เปลี่ยนชื่อโดยเชิญดังนี้. ท่านผู้ว่าฯ ๒.นายอำเภอ ๓.นายก อ.บ.ต. โดยพี่เหมี่ยวจะเป็นผู้ร่างจดหมายแล้วส่งให้พ่ออี๊ดและดูอีกที และวันไปอาจเชิญคุณโชตหิรัญ คุณไชยยันต์ ไปด้วย โดยหนังสือฉบับนี้จะต้องเสร็จก่อนวันที่ ๒๔ กค. นี้ สรุปแล้วคือ
๑. พี่เหมี่ยวรับร่างจดหมายแล้วส่งให้พ่ออี๊ด Proove ทาง Fax
๒. เรื่องกระดาษหัวจดหมายของก่อการบุญตามที่พี่แจง (ซึ่งอ้อยได้ถามแล้ว พี่แจงบอกว่าส่งให้ทาง Email korkanboon@hotmail.com เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจดหมายจะมีตัวอย่างให้เลือก 3 ฉบับ ซึ่งพี่แก้วได้ ส่ง Mail ไปทางข้าวตู เพื่อให้พ่ออี๊ดดูแล้ว
๓. เมื่อเสร็จแล้วทางพ่ออี๊ดก็จะส่งให้ทางคุณเกรียงไกรเซ็นต์ชื่ออีกครั้ง ซึ่งพ่ออี๊ดบอกว่า อาจนัดคุณเกรียงไกรทานข้าวพร้อมเซ็นต์จดหมายในวันที่ ๑๘ นี้เลย
  • ตามเรื่อง File ภาพโปสเตอร์ โฆษณาที่พี่แก้ว ต้องส่งให้ทางหลวงพ่อเพื่อสั่งพิมพ์
  • เรื่องสถานที่ซ้อมรำ ควรมีสถานที่สำหรับเป็นที่ซ้อมรำ ซึ่งทางพ่ออี๊ดได้ติดต่อคุณนกจริยา แถวเหม่งจ๋าย แต่เนื่องด้วยทางครูผู้สอนอยู่ฝั่งธน บางลำพู คงไม่สะดวกเพราะจะไกลเกิน จึงอยากได้สถานที่ใหม่ แล้วไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ใครมีหรือรู้จักก็แนะนำกันมาด้วย
รถตู้ที่จะใช้ในวันทำบุญปลูกต้นไม้นั้น ทางพี่แหม่มบอกว่าจะต้องจ้าง เพราะส่วนใหญ่ที่รู้จักจะใช้เช่ารถตู้กันหมด ค่าน้ำมันต่างหาก พ่ออี๊ดจึงให้ทางพี่แป้งติดต่อไปทางคุณอาพยนต์เพื่อย้ำเรื่องรถตู้อีกที

ปล. พ่ออี๊ดได้โทรมาเพิ่มเติมกับอ้อย คือ
๑. ให้พี่เหมี่ยวออกจดหมายเพิ่มให้กับทาง ผอ.รพ.สระบุรี อีก ๑ ฉบับ เรื่องการขอความอนุเคราะห์ในส่วนของรถพยาบาล เครื่องมือแพทย์ ฯลฯ มาใช้ในวันงานด้วย โดยจดหมายทุกฉบับให้แนบรายงานการประชุมตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบันพร้อมด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปด้วย แล้วพ่ออี๊ดจะเป็นคนถือจดหมายฉบับนี้ไปให้กับ ผอ. รพ. สระบุรีเอง
๒. ป้าจุ๊กับพ่ออี๊ดได้เรียบเรียงเนื้อเพลงใหม่ เป็นดังนี้


(เสภา) แรกพบวัดเก่าเราตระหนัก

เกิดแรงผลักใคร่สร้างโบสถ์ประโยชน์หลาย

อยากจะเห็นแห่งนี้ที่พึ่งใจ

หวังไว้ว่าจะทำตามวาจา


(ทองย่อน) เริ่มด้วยการปลูกต้นไม้ให้งามงด

กัลปพฤกษ์กำหนดทรงคุณค่า

เก้าร้อยต้นภูมิทัศน์จัดแต่งมา

และนำพาทุกดวงใจให้รวมกัน


(สะสม) ดั่งเป็นเช่นสวรรค์วิมานสรวง

ชมพูพวงขาวแต้มแซมสีสัน

ปวงทวยเทพเทวามาประทาน

ปกสถานขอบขัณฑสีมา

(เทพทอง) สารภี ขี้เหล็ก มะขามป้อม

ยมหอม ประดู่แดง ดาหลา

ต้นพริก จิกน้ำ กรรณิการ์

ดูช่อชู ตรูตา มวลมาลี

(มะลิซ้อน) ... ... คงมินาน

ณ พฤกษาสถานพิมานนี้

สิริอุบสถบังเกิดมี

สระบุรีศรีพิสุทธิ์พุทธบูชา




(บทที่ ๑ แต่งโดย ป้าจุ๊ กับ พ่ออี๊ด )

(บทที่ ๒ แต่งโดย มล. จุลลา งอนรถ)

(บทที่ ๓,๔,๕ แต่งโดย พ่ออี๊ด,พี่อุ้ย,พี่เหมี่ยว,พี่แหม่มแหม่ม(จินตหรา),แม่นุช)

(วรรคสุดท้าย แก้ไข โดยป้าจุ๊กับพ่ออี๊ด)

ท้ายนี้ขอขอบคุณคุณเกรียงไกรที่เป็นเจ้าภาพในการประชุมครั้งนี้ ขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลามาประชุม ร่วมคิดเห็น เสนอแนะ

ขอขอบพระคุณสำหรับผู้ร่วมก่อการบุญทั้งหลาย ที่ไม่ได้มาร่วมประชุม แต่ก็ได้ร่วมกันประสานงานบุญนี้ต่อๆกันไป

ขอขอบพระคุณสำหรับคุณขรรค์ชัย บุนปาน ที่ทำบุญมาด้วยจำนวนเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท


อ้อย ผู้จดบันทึกการประชุม

เลิกประชุม เวลา ๒๓.๓๐ น.

การประชุมคราวนี้ไม่มีรูป เพราะพี่แก้วไม่ได้มา ติดถ่ายละคร

ติดตามความคืบหน้าได้ที่

http://korkanboon.hi5.com

http://www.korkanboon.blogspot.com/

http://korkanboon.blog.sanook.com/

E-MAIL : korkanboon@hotmail.com

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

แผนที่ไปวัดเขาขี้เหล็ก


CLICK ที่แผนที่ จะเปิดหน้าใหม่ให้ภาพใหญ่ขึ้นครับ

เลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพไปทางโคราช
ตรงไปเรื่อยๆ สังเกตปั๊มบางจากทางขวามือ
เบี่ยงซ้ายออกคู่ขนานขึ้นสะพานเพื่อเลี้ยวขวาข้ามแยก
ไปทางถนน แก่งคอย-บ้านนา ถนนเลขที่ ๓๒๒๒
ตรงไปประมาณ ๑๒.๕ กิโลเมตร
สังเกตศาลาหลังคาสีเหลืองทางฝั่งขวามือ ประมาณศาลาที่๖
จะมีป้ายบอกทางเข้าวัดให้เลี้ยวขวาเข้าซอย
ตรงไปประมาณ ๒ กิโลเมตร วัดเขาขี้เหล็กจะอยู่ทางซ้ายมือ
ให้เลยไปจอดรถที่ วัดบ้านไร่ครับ
ไม่ต้องกลัวหลง เพราะระหว่างทาง จะมีป้าย และ อ.ป.พ.ร.
จะคอยบอกทางไปวัดเขาขี้เหล็ก
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
๐๘๓-๒๙๔-๙๓๙๘ คุณแป้ง

วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

บันทึกบุญ17 JUNE 2008


บันทึกบุญ
ความคืบหน้าของการไปวัดเขาขี้เหล็กในวันอังคารที่ 17 มิถุนายน 2551

ผู้ร่วมเดินทาง คันที่ 1 พ่ออี๊ด , แม่นุช , ข้าวตู , พี่แป้ง
คันที่ 2 พี่เหมี่ยว , พี่โหน่ง , พี่แก้ว , อ้อย
คันที่ 3 พี่ดุ๊ก , พี่แจง , กู๋นุ้ย
คันที่ 4 พี่เอ๋

ขบวนเดินทางนัดกันพี่บ้านพ่ออี๊ด เวลาประมาณ 10.00 น. (เฉพาะคันที่ 1และ 2 ส่วนคันที่ 3 กับ 4 เจอกันที่ปลายทาง) ทุกคนมุ่งมั่น ตั้งหน้าตั้งตา ตั้งใจ รีบเร่ง เพื่อให้ถึงจุดหมาย ฝ่ายพี่เหมี่ยว U-Turn ผิด Lane แถวรัชดามุ่งหน้าไปประชาชื่น ปากอันกว้างใหญ่บอกระวังนะ อีกปากช่วยหนุนว่าไป! ไป! จนที่สุดก็มาเจอหัวปิงปองยืนโบกบนทางด่วนแต่มิใช่ U-Turn ผิด Lane เป็นเพราะขับด้วยความเร็วเกิน 120 มาแค่ 2 ขีด หัวปิงปองบอกว่าที่จริงไม่อยากจะจับเพราะขับแค่ 122 ก.ม./ชม. แต่เห็นเป็นดาราเลยเรียก พี่แก้วแซวว่าตำรวจเห็นพี่เหมี่ยวได้อย่างไร หรืออาจเป็นเพราะเห็นปากพี่โหน่ง เลยเรียกมาคุยเฉยๆ ดีนะที่เป็นดารา คุยกันสักนิด สะกิดกันสักหน่อย ให้สินน้ำใจเล็กน้อย พี่ท่านก็ปล่อยไป จากนั้นพวกเราก็มาถึงจุดหมาย นั้นคือ ร้านเกียวอัน มิใช่วัดเขาขี้เหล็ก ต่างคนตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเอร็ดอร่อย เมนูวันนี้ มีข้าวผัด ปอเปี๊ยะ ผัดมักกะโรนี กุ้งยำ สลัดเนื้อสัน เนื้อทอดน้ำปลา ฯลฯ กินของคาวเสร็จก็ตามด้วยของหวานเป็นธรรมเนียม เมื่อเติมพลังได้ที่ จึงพากันเดินทางไปวัดพระพุทธฉายก่อน
ที่วัดพระพุทธฉาย เราได้เจอเจ้าอาวาส และหลวงพ่อฤษี จึงได้เรียนถามและสรุปดังนี้

1. เรื่องของพื้นที่วัด ตอนนี้เราได้สำเนาโฉนดมาแล้ว แต่ในส่วนของ Landscape ทางวัดจะติดต่อทางกรมที่ดินเพื่อให้เขามาทำให้อีกทีหนึ่ง ซึ่งอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายตามมาค่อยแจ้งให้ทราบทีหลัง โดยวันนี้ ทางในส่วนของพี่ดุ๊กและพี่เอ๋ กู๋นุ้ย ได้วิเคราะห์ในส่วนของพื้นที่ ทำเล และวางแผนไปแล้วในส่วนหนึ่ง ซึ่งจะต้องมาสรุปกับทางวัดกันอีกที
2. ในเรื่องของทหารนั้น ทางวัดได้จัดเตรียมซึ่งต้องมีอาหารให้เขา โดยค่าแรงกับค่าอาหารตรงนี้ ทางวัดยังไม่สรุป
3. หน่วยบริการพยาบาลเคลื่อนที่ ทางวัดเป็นผู้ดำเนินการ โดยจะขอทางนายอำเภอ
4. ห้องน้ำสำหรับบริการ ท่านเจ้าอาวาสจะติดต่อรถสุขาจากกรมป่าไม้ รองรับไว้ 3 คัน
5. ใบอนุโมทนาบัตร ได้ถ่ายรูปใบอนุโมทนาบัตรของวัดพระพุทธฉาย แต่ให้ทางเราจัดการเปลี่ยนโลโก้ ชื่อ แล้วส่งให้ทางวัดจัดการอีกทีหนึ่ง
6. ธนาคารที่จะเปิดบัญชี กำหนดเป็นธนาคารไทยพาณิชย์
7. สถานที่จอดรถในวันงาน จะให้จอดตรงวัดบ้านไร่ แล้วจัดให้มีรถตู้รับส่งไปยังวัดเขาขี้เหล็ก (เจ้าอาวาสบอกใกล้เดินมาได้ แต่ทางเราดูลู่ทางแล้ว ไม่น่ารอดเพราะโค-ตะ-ระ-ไกล ประมาณ 500 เมตร)
8. การเลี้ยงพระ ทางเราเป็นผู้จัดการ โดยให้เลี้ยงพระ ณ วัดพระพุทธฉาย แล้วค่อยขึ้นมาทำกิจกรรมปลูกต้นไม้ช่วงบ่ายโมง
9. การรำถวายเปิดป่า ทางวัดเสนอเป็นรำดาวดึงส์ แต่ทางแม่นุชเกรงกันว่าจะร้อนเพราะต้องแต่งครบองค์ แต่พ่ออี๊ดบอกว่า ทางกรมศิลป์จะชำนาญด้านนี้เพราะบางทีแต่งตัวตั้งแต่เช้าเพื่อรำตอนเย็นหรือค่ำก็ยังมี จึงยังไม่สรุป แต่การรำนั้นจะให้ทางผู้เริ่มก่อการบุญและดารา เข้าแจมด้วย
10. ส่วนในเรื่องการปลูกต้นไม้ ซึ่งตอนนี้สรุปกันคือ อยากให้ปลูกต้นชัยพฤกษ์ ให้ได้เยอะที่สุด ซึ่งตัวเลขที่ทางวัดกำหนดไว้คือจำนวน 1212 ต้น แต่ถ้าหากหาไม่ได้ครบตามจำนวน ก็ปลูกต้นไม้อื่นแซมเข้าไปได้ (เป็นต้นไม้ที่เลือกไว้ในรายละเอียด 1) ประมาณกลางเดือนหน้า ทางวัดจะให้ทางทหารมาดำเนินการเตรียมหน้าดิน ขจัดวัชพืชออกจากด้านหลังตรงศาลา ไล่ไปจนถึงทางลง ซึ่งทางผู้เริ่มก่อการบุญอาจต้องมาดูพื้นที่กันอีกทีหนึ่ง ส่วนอุปกรณ์ในการปลูก ไม่ว่าจะเป็น พลั่ว เสียม ทางผู้ก่อการบุญเป็นผู้จัดหามาให้ (ถ้าให้ระดับ VIP ต้องให้ครบชุด) โดยเมื่อปลูกเสร็จแล้วก็มอบเป็นของที่ระลึกให้กับผู้นั้นไป โดยเรื่องอุปกรณ์นี้ให้พี่ดุ๊กเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนสีป้ายชื่อจะออกเป็นสีตามโบสถ์ คือ โทนขาว เทา
11. ณ วันงาน ทางพ่ออี๊ดได้ขอให้ทางวัดจัดเตรียมเจ้าหน้าที่สำหรับดูแลในเรื่องของการจอดรถ การปลูกต้นไม้ ซึ่งทางวัดรับจัดหาให้ แล้วจะมีการปักธงตามทางเดินเข้าวัดเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์แก่ผู้มาเยือน และจะต้องมีเต้นท์ เช่น เต้นท์ข้าวปลาอาหาร – เครื่องดื่ม เต้นท์ดีดสีตีเป่า ลานที่ใช้สำหรับรำถวาย เต้นท์หน่วยพยาบาล
12. เสื้อผ้าที่จะสวมใส่วันที่ 12 สิงหา เสนอกันเป็นสีชมพู ขาว อาจทำเสื้อขายเพื่อหาเงินสมทบทุนอีกส่วนหนึ่ง โดยพี่เหมี่ยวเสนอให้เป็นร้านที่เคยทำเสื้อให้กับงานของอาจารย์สดใสเพราะราคาค่อนข้างถูก
ณ วันนั้นทางพี่แจงได้นำกำหนดการมาให้ทราบกันคร่าวๆ ดังนี้

ลำดับงานสังสรรค์และประชุมกล่ม”ก่อการบุญ”
วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2551 ณ ร้านสีฟ้า (อย่าลืมนะ..เวลาหิว) เวลา 18.00 – 21.00 น.


18.00 น. ผู้ริเริ่มก่อการบุญ พร้อมพบกัน ณ ร้านสีฟ้า

18.30 น. สมาชิกผู้ร่วมก่อการบุญทยอยมาถึงร้าน
* แขกของผู้ใด ใครรู้จักใคร ช่วยกันต้อนรับขับสู้...เชิญนั่งที่โต๊ะ
(กำหนดพื้นที่คร่าวๆ ก่อน จะมั่วบ้างไม่เป็นไร ตั้งใจมาทำบุญ)

19.00 น. รับประทานอาหารได้เลย

19.30 น. เริ่มการประชุมนำเสนอแผนก่อการบุญ ตามลำดับ ดังนี้
1/1 พิธีกร “โหน่ง-แจง” ทักทายและต้อนรับผู้ร่วมก่อการบุญ

1/2 พิธีกรแนะนำผู้ริเริ่ม่ก่อการบุญ
- พ่ออี๊ด สุประวัติ ปัทมสูต
- พี่น้อย สุรพงศ์
- ผู้การพยนต์
- น้องดา หทัยรัตน์ อมตะวณิชย์
- เหมี่ยว ปวันรัตน์ นาคสุริยะ
- ปุ๊ย ผอูน จันทรศิริ
- แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์
- แก้ว ชาญวุฒิ พรหมสาขา ณ สกลนคร
- แป้ง นนท์
- ดุ๊ก ภาณุเดช วัฒนสุชาติ
- โหน่ง วสันต์ อุตตมโยธิน
- แจง วราพรรณ หงุ่ยตระกูลและนุ้ย ผู้สามี

1/3 พ่ออี๊ดเล่าความเป็นมาของการก่อการบุญ / บอกบุญผู้มาร่วมงาน
(เล่าได้เลยพ่อ...ขอที่มาที่ไปแบบสบายๆ ... แต่ละเอียดได้มากกว่าแผ่นพับ
... ในเวลา 10 นาทีค่ะ)

1/4 ดุ๊กพูดเรื่องโครงการนำร่อง...ปลูกต้นไม้
(รายละเอียด ต้นไม้และภูมิทัศน์ของวัด ... ให้เวลา 5 นาที)

1/5 เหมี่ยวอธิบายรายละเอียดของการปลูกต้นไม้ วันแม่ 12 สิงหานี้
(วิธีการไปร่วมบุญ / ราคาต้นไม้ / ยืนยันเพื่อเตรียมต้นไม้ที่พี่แป้ง เบอร์
083-294-9398 มีเวลา 5 นาทีโดยประมาณ... เอาให้เข้าใจ

1/6 แหม่มขอความร่วมมือในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
(ขอให้สื่อมวลชน และพี่น้องในแวดวงบันเทิง รวมถึงวงการอื่นๆ ช่วยบอกต่อ..
บอกบุญ สอบถามทางผู้ริเริ่มก่อการบุญได้ทุกคน ใครมีเวลาให้ไปบอกบุญผ่านสื่อ
/ ผ่านรายการ ยินดีสุดๆ ...
...ถ้าเวลาเริ่มยืดเยื้อ ขอกระชับ รวบรัด อั้น... 5 นาที+-

20.00 น. พิธีกรเปิดโอกาสให้ซักถาม
(เชิญผู้รับผิดชอบแต่ละฝ่ายตอบข้อสงสัย... ถ้าตอบเองไม่ได้)

20.15 น. พิธีกรกล่าวอนุโมทนา สาธุ ผู้ก่อการบุญทุกท่าน
(เน้น อย่าลืมบอกต่อ)

20.20 น. สื่ออยากสัมภาษณ์ใคร ก็ช่วยให้ความร่วมมือด้วยค่ะ
(รวมๆ กันเป็นก้อน 2-3 คนก็ได้ จะได้ช่วยพีอาร์แบบมีสีสัน)
ทั้งหมดสังสรรค์ตามอัธยาศัย / คาราโอเกะ แล้วแต่จริต...
เรื่อยๆ ได้ถึง ...............น. ใครอยากกลับก่อนก็ได้ พ่ออี๊ดยังอยู่!

รายละเอียด 1 รายการต้นไม้ปลูกที่วัดเขาขี้เหล็ก

1. ต้นขี้เหล็ก มีดอกสีเหลือง ใบ ดอกกินได้ เป็นต้นไม้ชื่อเดียวกับวัด
2. ตะเคียน ทรงพุ่มไม่ผลัดใบ ให้ร่มเงา เป็นต้นไม้ในพุทธประวัติ
3. ต้นมะขามป้อม เป็นต้นไม้ไม่ผลัดใบ มีผลกินได้ เป็นต้นไม้ในพุทธประวัติ
4. ต้นมะตูม เป็นไม้มงคล ผลกินได้ ใบใช้ประกอบพิธีทางพิธีกรรมพราหมณ์ ถือว่าเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เหมือนตรีศูรย์ของพระผู้เป็นเจ้า
5. จิกน้ำ ไม้ไม่ผลัดใบ ออกดอกสวยงามมาก เป็นต้นไม้ในพุทธประวัติ
6. กระทิง ไม้ไม่ผลัดใบ ใบหนาให้ร่มเงาตลอดปี ดอกสีขาว เป็นไม้ประจำ พระพุทธเจ้าองค์ต่อไป พระศรีอริยเมตไตรย์
7. สารภี ไม้ไม่ผลัดใบ ดอกใช้ทำยาหอม ให้ร่มเงาตลอดปี โตไว
8. มะขวิด เป็นไม้หายาก ผลใช้ทำน้ำปานะได้ ผลคล้ายมะตูม
9. มะตาด เป็นไม้โตไว ให้ร่มเงาทรงพุ่ม ผลกินได้ ใช้ประกอบอาหาร ชาว มอญนิยมนำมาประกอบอาหาร
10. รำเพย เป็นไม้ทรงพุ่มขนาดเล็ก ออกดอกตลอดปี มีหลายสี
11. ประดูแดง
12. ต้นชัยพฤกษ์ ให้ดอกสีชมพู คล้ายต้นซากูระ ออกดอกฤดูแล้ง

วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

MEETING 12 JUNE 2008


รายงานการประชุม

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2551
ผู้เข้าร่วมประชุม 1. พ่ออี๊ด 2. พี่แหม่ม จินตหรา 3. พี่เหมี่ยว ปวันรัตน์ 4.พี่ดุ๊ก ภาณุเดช 5. พี่แจง + กู๋นุ้ย 6. พี่โหน่ง วสันต์ 7. พี่แก้ว ชาญวุฒิ 8. พี่แป้ง 9. ข้าวตู
ผู้จดบันทึกการประชุม อ้อย
สถานที่ประชุม ร้านกาแฟ บองมาเช่ วัดเสมียนนารี
เริ่มประชุมเวลา 14.30 น. โดยพ่ออี๊ดเปิดประชุมดังนี้

1. เรื่องของเงินที่เกิดขึ้นในการสร้างโบสถ์ โดยสรุปตัวเงินที่เกิดขึ้นให้แยกเป็น 2 บัญชีดังนี้
· บัญชีบุญ โดยบัญชีนี้เกิดจากเงินที่ได้รับจากการปลูกต้นไม้หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการเตรียมการปลูกแล้ว (การปลูกต้นไม้จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 สิงหาคม 2551) และอีกส่วนหนึ่งจะได้รับจากการทอดผ้าป่า บัญชีนี้จะใช้เฉพาะการสร้างโบสถ์หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับวัดเท่านั้น โดยทางคุณแป้งจะเป็นผู้จัดการเปิดบัญชี ซึ่งในที่ประชุมเห็นควรว่าต้องเป็น 2 ใน 3 ของผู้ริเริ่มก่อการบุญเป็นผู้มีอำนาจในการเบิกถอน โดยผู้มีอำนาจในการเบิกถอนได้เสนอชื่อดังนี้คือ
1. คุณแหม่ม จินตหรา
2. คุณเหมี่ยว ปวันรัตน์
3. คุณแป้ง
แต่เนี่องด้วย ผู้มีอำนาจหมายเลข 1 และ 2 มักจะติดการถ่ายทำละคร อาจทำให้ลำบากในการเบิกถอน จึงเห็นควรเป็นคุณแจง และในการเปิดบัญชีดังกล่าวพ่ออี๊ดเสนอให้เป็นบัญชีที่สอดคล้องกับทางวัดขี้เหล็ก (ธนาคารเดียวกัน เช่นวัดใช้ธนาคารกสิกร เราก็ควรเปิดกสิกร) เพื่อสะดวกในการโอนเงินสำหรับการสร้างโบสถ์ โดยข้อมูลทั้งหมดนี้จะสรุปกันในวันที่ 17 มิ.ย. หลังจากการเดินทางไปวัดขี้เหล็ก ต้องสรุปคือ
1. ใครเป็นผู้มีอำนาจในการเบิกถอนเงิน
2. ธนาคารที่เปิดควรเป็นธนาคารอะไร
โดยในปัจจุบัน เงินที่เป็นบัญชีบุญนั้น ได้รับการบริจาคมาแล้วเป็นจำนวนเงิน 22,400.00 บาท ซึ่งส่วนนี้ทางคุณแป้งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลอยู่
· บัญชีกลาง คือบัญชีที่ผู้เริ่มก่อการบุญได้ส่งเงินสมทบกัน โดยบัญชีนี้จะใช้ในการบริหาร การจัดการ ในการประชุมแต่ละครั้งหรือค่าใช้จ่ายในการเดินทางติดต่อประสานงานกับทางวัด ซึ่งตอนนี้ยอดเงินของบัญชีกลางได้สรุปรายละเอียดตามเอกสารแนบ
2. เรื่องของการปลูกต้นไม้
การปลูกต้นไม้ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 สิงหาคม 2551 นั้น จะต้องมีการทำการ์ดและประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยจะจัดให้มีการแถลงข่าวขึ้นในวันที่ 19 มิถุนายน 2551 ณ ร้านสีฟ้า โดยจะเชิญทางผู้จัดละครและนักข่าว ในเวลาประมาณ 18.00 น.
· การ์ด พ่ออี๊ดถามว่า ถ้าบอก 100 คน จะมาได้ประมาณ 40% ซึ่งตรงนี้ พี่ดุ๊ก ภาณุเดช เสนอว่า การ์ดนี้น่าจะให้เฉพาะผู้ใหญ่ ซึ่งพวกเราน่าจะใช้วิธีบอกต่อกันหรือถ่ายเอกสารกัน เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดทำการ์ดด้วย จึงสรุปควรเห็นว่าน่าจะทำการ์ดประมาณ 300 ใบ โดยการ์ดที่พี่แจงนำมานั้นมีการแก้ไขดังนี้คือ
1. เพิ่มชื่อคุณ ดา หทัยรัตน์ เพิ่มชื่อเพื่อนพ่ออี๊ด อีก 2 คน คือผู้การพยนต์ (พตอ. พิเศษ พยนต์ ชื่นบาน และพี่น้อย สุรพงศ์(คุณสุรพงศ์ เศรษฐบุตร) ในรายชื่อผู้ริเริ่มก่อการบุญ
2. อย่าลืมใส่แผนที่ทางไปวัดขี้เหล็ก
3. ให้เพิ่มถ้อยคำที่เกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ในวันแม่เพื่อถวายแด่พระเจ้าอยู่หัวของเรา
4. ในการ์ดจะต้องมีเบอร์โทรศัพท์ เบอร์กลาง เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะมีผู้เข้าร่วมก่อการบุญกี่คน เพื่อจะได้ระบุชื่อในป้ายชื่อ และรู้จำนวนคน โดยเบอร์โทรศัพท์นี้ทางพี่แป้งจะเป็นผู้ดำเนินการและแจ้งให้ทุกคนทราบกันภายหลัง
· จำนวนต้นไม้ที่จะใช้ในการปลูก รวมถึงประเภทของต้นไม้ ราคาของต้นไม้ พ่ออี๊ดกล่าวว่า การปลูกต้นไม้นั้น ทางวัดจะจัดเตรียมให้ทหารเป็นผู้ดำเนินการเตรียมพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการถอนวัชพืชหรือขุดหลุม แล้วควรจะปลูกต้นไม้กี่ต้น
1. พี่ดุ๊กเสนอว่า เราควรจะกำหนดจำนวนต้นไม้ไปเลย ว่าโครงการนี้เราจะปลูกทั้งหมดกี่ต้น เพราะบางคนอาจปลูกมากกว่า 1 ต้นก็ได้ ซึ่งการปลูกต้นไม้นั้น ต้องดูพื้นที่ของบริเวณวัดด้วยว่าทางวัดจัดให้มีพื้นที่เท่าไหร่ในการปลูก จะปลูกตรงไหน โซนไหน ต้นไม้แต่ละชนิดควรแยกเป็นโซนๆหรือผสมสลับกัน โดยจะต้องอาศัยแบบแปลนของพื้นที่ทั้งหมดที่ทางวัดมี พร้อมออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติด้วย อาจสอดแทรกต้นไม้ชนิดดอกเพื่อให้ผู้คนผ่านไปมาเห็นความสวยงามพร้อมกับความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่
2. เรื่องค่าใช้จ่ายของการปลูกต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็น ราคาต้นไม้ จำนวนทหารว่าใช้จำนวนกี่คน อาจใช้ทหารประมาณ 30 คน โดยแบ่งเป็น 18 คน สำหรับการถางหญ้า วัชพืช เตรียมพื้นที่ อีก 12 คนที่เหลือ ก็รองรับการปลูกต้นไม้ ค่าแรงที่เกิดขึ้น ค่าดิน ค่าอุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายในการเตรียมพื้นที่ จะสรุปกันอีกทีหลังวันที่ทางคณะกรรมการเดินทางไปพบกับหลวงพ่อฤษี ในวันที่ 17 มิถุนายน 2551
3. ป้ายชื่อคนปลูกต้นไม้พี่ดุ๊กเสนอเป็นป้ายไม้โดยการจัดทำป้ายชื่อพี่ดุ๊กจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอาจรวมกับราคาของต้นไม้และค่าใช้จ่ายในการเตรียมพื้นที่ ซึ่งป้ายชี่อนี้อาจจะเป็นป้ายใหญ่แล้วมีรายชื่อรวมเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการทำป้ายชื่อแต่ละคน ซึ่งตรงนี้ต้องขอดูพื้นที่ทั้งหมดของวัดก่อนจะได้ออกแบบได้สวย และขอ Landscape ของทางวัดด้วย อะไรอยู่ไหนบ้าง โซนไหนปลูกต้นไม้อะไร
4. ค่าใช้จ่ายในวันปลูกต้นไม้ จะมีเรื่องของ
4.1 ค่าอาหารที่ต้องทำเลี้ยงให้กับทุกคนอาจให้ทางน้าถั่วแระเหมาไป ยังไม่สรุปแน่ชัด
4.2 ค่าเครื่องดื่ม อาจขอจาก Sponsor ก็ได้
4.3 รถที่จะต้องใช้ในการเดินทางอาจเป็นรถส่วนตัวและจัดให้มีรถตู้เพิ่มสำหรับคนที่ไม่สะดวก รถตู้นั้นอาจขอความร่วมมือจากทางผู้จัดช่วยอนุเคราะห์ตรงนี้ให้ และทางพี่แจงกับพี่ดุ๊กจะเป็น Sponsor ให้ในการจัดหารถบัส 1 คัน โดยทางเราเป็นผู้จัดการเรื่องค่าน้ำมันรถให้
4.4 สำหรับผู้ที่ประสงค์จะนำรถไปเอง ทางผู้ก่อการบุญก็ขออนุโมทนาบุญมา ณ โอกาสนี้ด้วย
5. ต้นไม้ที่ใช้ปลูก พี่ดุ๊กเสนอเพิ่มต้นประดู่แดงด้วย อาจปลูกไว้ด้านบนเพื่อให้คนมองขึ้นไปข้างบนได้เห็นดอกสวยๆ
3. Web ที่จะทำ ให้ทำเป็น Hi 5 เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยพี่แก้ว เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ ซึ่งใน Web นี้จะต้องระบุสถานที่ ประวัติความเป็นมา รูปถ่าย แนวทาง การดำเนินงาน แผนการ ฯลฯ โดย Web นี้ จะชื่อเป็น www.korkanboon.hi5.com
4. หน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละบุคคล
พ่ออี๊ด ประธาน
พี่ดุ๊ก+พ่ออี๊ด การจัดสถานที่ของพื้นที่ทั้งหมด แผนผังการปลูกต้นไม้
อ.ประดิษฐ์+พี่ดุ๊ก ผู้ออกแบบโบสถ์
พี่เหมี่ยว +พี่น้อย ผู้ประสานงานกับทางวัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ๆ ก็ตาม
พี่แจง+กู๋นุ้ย ดูแลเรื่องการ์ด เอกสารต่าง ๆ
พี่แป้ง เลขานุการ
พี่แหม่ม เหรัญญิก+ผู้ช่วย
พี่แก้ว+ข้าวตู จัดการเรื่องWebและรับผิดชอบเรื่องการถ่ายทำภาพนิ่ง VDO
พี่แหม่ม+พี่ๆนักข่าว ดูแลเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
อ้อย ผู้ช่วยพี่แป้ง จดบันทึกการประชุม
5. สรุปการประชุม คือต้องไปพบหลวงพ่อเป็นการด่วนเพื่อสรุปงานดังกล่าวทั้งหมด
1. เรื่องของแปลนพื้นที่ทั้งหมดที่วัดมี หรือถ้าขอสำเนาโฉนดได้ก็ดี
2. การเตรียมพื้นที่ในการปลูก ทหารที่จะใช้เตรียมจำนวนกี่คน ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เช่น ค่าแรง ค่าดิน ค่าอุปกรณ์ ค่าอาหาร ทั้งก่อนวันปลูกและวันปลูก รวมถึงการดูแลหลังการปลูก
3. หน่วยบริการพยาบาลเคลื่อนที่ ในวันที่ 12 สิงหา 51
4. ห้องน้ำสำหรับบริการแก่บุคคลทั่วไป
5. เรื่องของใบอนุโมทนาบัตร จะออกให้อย่างไรเมื่อได้รับเงิน เพื่อให้บุคคลที่บริจาคนำไปลดหย่อนภาษี
6. ทางวัดได้ใช้ธนาคารอะไรในกิจการของวัด
7. ให้พี่แก้วถ่ายภาพบริเวณวัด ภาพประกอบเพื่อทำ Web
8. การเลี้ยงพระ
9. การรำถวายเปิดป่า
ปิดประชุมเวลา 17.30 น.
อ้อย ผู้บันทึกการประชุม

วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

บันทึกบุญ๑



บันทึกทางบุญ
วันที่ 5 กรกฎาคม 2551
ผู้ร่วมเดินทาง พี่โหน่ง ปุ๊ย เหมี่ยว แป้ง แก้ว
สวัสดีครับผู้ร่วมก่อการบุญทั้งหลาย วันนี้เรานัดกันไปคุยความคืบหน้ากันที่วัดพระพุทธฉาย กับวัดเขาขี้เหล็ก ตามที่ได้ประชุมกัน เรานัดกันที่ บองมาเช่ ๑๐.๐๐ น.แต่กว่าจะยุรยาตรออกจากที่นั่นได้ก็ปาเข้าไป ๑๑ โมง เพราะมีเบื้องหลังคือ เราจะไปแวะทานข้าวกลางวันกันที่ เกียวอันกันก่อน แล้วค่อยเข้าไปที่วัดพระพุทธฉาย
พวกเรา พี่โหน่ง ปุ๊ย กับผม ตกลงกันว่าเราจะเสียสละโดยการจอดรถไว้ที่บองมาเช่ แล้วเราจะนั่งรถเหมี่ยวไปแทน เพราะเหมี่ยวขับรถเก่ง รถเหมี่ยวนั่งสบาย แถมยังมีที่พอให้ใส่น้ำ ใส่ดอกไม้ที่เราจะนำไปถวายพระได้ (สรุปคือพวกเราขี้เกียจขับ)
พอขึ้นทางด่วน ถึงด่านดอนเมือง ด่านเดิมที่เหมี่ยวเคยโดนจับข้อหาขับรถเร็ว ตำรวจเพียบเหมือนเดิม ด้วยความกลัวของเหมี่ยว พอถึงด่านมัวแต่ดูตำรวจ ดันลืมให้เงิน จนเจ้าหน้าที่ต้องเตือน แต่เราก็ผ่านด่านมาได้อย่างปลอดภัย ไม่โดนตำรวจจับ สงสัยตำรวจคงไม่อยากได้พระแล้ว เพราะจับเหมี่ยวทีไร เหมี่ยวแจกพระทุกที
พอผ่านจุดนั้นมาได้ พวกเราก็โล่งอก หาเรื่องคุยฆ่าเวลา เริ่มเม้าท์กัน แต่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถนำมาเล่าให้พวกท่านฟังได้ เพราะแต่ละเรื่องเฉียดคุกกันทั้งนั้น เอาเป็นว่าข้ามรายละเอียดเรื่องนี้ไปแล้วกัน
พอถึงวังน้อย ก็แวะเติมน้ำมันกัน แป้งบอกว่าให้เอาเงินกองกลางออก เหมี่ยวไม่ยอมบอกไม่เป็นไร แต่แป้งยืนยันว่าเรามาทำงาน ไม่ได้มาเที่ยว เหมี่ยวจึงยอม แต่ปุ๊ยบอกว่าให้จดเลขกิโลไว้ พอขากลับถ้าน้ำมันเหลือ ให้สูบน้ำมันคืน หรือตีเป็นราคาให้เหมี่ยวคืนเงินมา
กว่าจะออกจากปั๊มได้ก็เสียเวลาอีก เพราะปุ๊ยดันอยากขับ ต้องแย่งกับเหมี่ยว สุดท้ายปุ๊ยได้ขับ พอนั่งที่คนขับ ปุ๊ยก็หันมาบอกกับพวกเราว่า “บอกทางชั้นด้วย เพราะชั้นไม่เคยมา” (เวรล่ะกู) พออกเดินทาง ปุ๊ยก็ยังขับไปเม้าท์ไปไม่หยุด แถมขับไปไอไป ตอนไอมันดันหลับตาด้วย คิดดูสิครับ ขับด้วยความเร็ว ๑๒๐ แล้วสภาพแบบนี้ (เวรล่ะกู)
๑๒.๓๐ เราเดินทางมาถึงโรงแรมเกียวอันโดยสวัสดิภาพ แต่กว่าจะเข้าโรงแรมได้ ปุ๊ยก็ขับเลยทางเข้า ต้องไปวนให้เสียวเวลา(กิน)อีก พอถึงห้องอาหาร เราก็ระดมสั่งอาหารกันทันที ข้าวผัดพริกขี้หนู ใส่แฮม,ข้าวผัดปู พร้อมอาจาด,กุ้งดอง,โกยซีหมี่,สลัดเนื้อสัน
ผมกำลังจดบันทึกอยู่ ปุ๊ยเห็นก็แย่งไปเขียนบ้าง
อันนี้ปุ๊ยขอเขียนบ้างค่ะ แก้วกินกระเทียมไม่ได้ เลยสั่งข้าวผัดเนื้อ ใส่พริก อร่อยโคตรๆ คุณอ๋อยเค้าแถมพล่าหมูมะเขืออ่อน กับหมี่กรอบด้วย อร่อยมากๆอีกแล้ว อยากเขียนเยอะๆ กะว่าจะเขียนไป ขับรถไป แต่ก็เกรางจะถูกเพื่อนๆร่วมทางคัดค้าน ห้องข้างๆมีทหารมาทานเลี้ยงกัน มีร้องเพลงด้วย พี่โหน่งจะขอตัวไปร่วมงานกับค้าด้วย แต่ถูกห้ามไว้เช่นเคย
พออาหารเริ่มมาเสิร์ฟ ปุ๊ยก็ขว้างปากกาทิ้ง หันไปทานอย่างไม่พูดไม่จา หลังจากอิ่มหมีพีมันแล้ว เราก็เริ่มทำงานกันเลย โดยเราเชิญคุณอ๋อยมาคุย เพื่อจะได้เลือกรายการอาหารที่จะไปเลี้ยงพระกันในวันที่ ๑๒ สิงหาคมนี้ ในที่สุดสรุปได้ว่า เอาเมนู set ที่ ๒ เพราะพี่โหน่งชอบ แกงป่าไก่สับ รายการอาหารมีดังนี้ ปูหลน+ผักสด,ผัดผักรวมมิตร ใส่ไก่ ใส่ปลาหมึก,แกงป่าไก่สับ,ไข่เจียวหมูสับ,แกงจืดรวมมิตรหม้อไฟ,ข้าวสวย และขนมคือ สามแซ๋ เหมี่ยวบอกว่าขอไว้เลี้ยงพระ ๖ ชุด แต่เผื่อแขกผู้ใหญ่อีก ๑ ชุด คุณอ๋อยบอกว่าจะจัดไปเผื่อให้ ถ้าไม่ทาน ไม่คิดเงิน ส่วนราคาอาหารนั้น จะแจ้งให้ทราบทีหลัง
ทางเกียวอันจะจัดอาหารไปส่งให้ พร้อมพนักงาน คิดแต่ค่ารถ ส่วนค่าพนักงานนั้น แล้วแต่เราจะให้ เราเลยได้ใจ ฝากคุณอ๋อยสั่งข้าวเหนียวหมูย่าง ไก่ย่าง จากเจ้าอร่อยในตลาด ให้ไปส่งพร้อมกันเลยทีเดียว ซึ่งคุณอ๋อยก็โอเค
๑๔.๑๗ ได้เวลาเคลื่อนพล ค่าอาหารนั้น ทั้งหมดแค่ ๗๕๙ บาท พี่โหน่งกับเหมี่ยวบอกว่า ขอออกแค่ร้อยเดียว ปุ๊ยรำคาญ บอกว่า ชั้นเพิ่งถ่ายโฆษณามา ชั้นเลี้ยงเอง พวกเราก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี่
ระหว่างเดินทางไปที่รถ พี่โหน่งบอกว่า ดีที่เราไม่เชิญพ่ออี๊ดมาด้วย เพราะจริงๆแล้ว เรามาเที่ยว มาทานอาหารกันเฉยๆ (นี่ แอบฟ้องเลยครับ) พอขึ้นรถก็มีเรื่องโวยวายอีกจนได้ เพราะนังปุ๊ยไปวัดพระพุทธฉายไม่ถูก แต่อยากขับ พวกเราก็ก่นด่าด้วยถ้อยคำผรุสวาทที่ไม่สามารถนำมาเล่าได้ (อีกแล้ว) พอด่ากันเสร็จ ก็เม้าท์เรื่องคนอื่นต่อ
ไม่นานเราก็มาถึงวัดพระพุทธฉายโดยสวัสดิภาพ หลวงพ่อฤษีกำลัง on line อยู่ เหมี่ยวขอโทษหลวงพ่อที่มาช้า เพราะพี่โหน่งชวนทานข้าวนาน แล้วเราก็เริ่มคุยกับหลวงพ่ออย่างเป็นทางการ ต่อไปนี้คือข้อสรุปครับ
· เรื่องต้นกัลปพฤกษ์ ทางกรมป่าไม้จะจัดเตรียมไว้ให้ แต่ให้ทางวัดจัดต้นไม้ ๑๐ พันธ์ ตามที่ได้เคยคุยกันไว้ ประมาณ ๒๐๐ ต้น คละกันมา หลวงพ่อบอกว่า ต้นที่ยังไม่ควรปลูกก่อนก็คือ ต้นจิกน้ำ เพราะเป็นต้นไม้ที่ต้องการน้ำมาก น่าจะเป็นต้นสารภีก่อน เพราะจะโตเร็ว
· เรื่องบริเวณที่ๆจะปลูกต้นไม้ ตอนนี้ได้มีการถางที่ไว้เป็นบางส่วนแล้ว ตรงที่ๆมีปัญหา ยังไม่ต้องปลูกค่าใช้จ่ายในการถากถาง มีโยมอุปัฏฐากได้ออกให้ไปแล้ว
· เรื่องน้ำที่จะใช้ หลวงพ่อบอกว่า วันงานไม่มีปัญหา
· เรื่องรถสุขา ทางป่าไม้ได้จัดให้ ๓ คัน จอดข้างบน ๑ คัน จอดข้างล่าง ๒ คัน เรื่องค่าใช้จ่าย ทางเราเป็นผู้ออก
· เรื่องที่จอดรถวันงาน หลวงพ่อบอกว่า ให้จอดที่โรงเรียนวัดศรัทธาเรืองศรี และที่วัดบ้านไร่ พวก VIP ให้จอดบริเวณวัดได้ไม่เกิน ๑๕ คัน ส่วนบัตรจอดรถ หลวงพ่อบอกว่า ไม่น่าจะมี เพราะจะเป็นการแบ่งชนชั้น
· เรื่องลูกเสือที่จะมาช่วยงาน ใช้เด็กนักเรียนชุมชนมาช่วย ประมาณ ๓๐ คน ส่วนจำนวนทหารยังบอกไม่ได้ อยู่ที่เจ้าอาวาสจะพิจารณา ค่าใช้จ่าย ทางเราเป็นผู้ออก
· เรื่องอาหาร ทางวัดจะมีขนมจีน น้ำยา และข้าวหลาม จากบ้านบึง ทางเราก็จัดของเรามา ส่วนเรื่องจาน ชาม ช้อน โต๊ะ เก้าอี้ แก้วน้ำ เอาที่วัดได้ มีมากพอ
· เรื่องเต็นท์ที่จะตั้งในวันงาน เป็นเต็นท์ใหญ่ ยังไม่ได้ระบุจำนวน ค่าใช้จ่าย ทางเราเป็นผู้ออก
· เรื่องเบี้ยเลี้ยง มีเบี้ยเลี้ยงให้กับ รถสุขา รถพยาบาล เด็กนักเรียน (ช่วงนี้พี่โหน่งได้ตกอยู่ในภวังค์ ประมาณ ๓๐ วินาที เพราะมีหนุ่มหล่อล่ำ หน้าตาดี เข้ามาไหว้หลวงพ่อ)
· เรื่องพัดลม ที่วัดมีพัดลมตัวใหญ่ มีคนมาบริจาค ๑๒ ตัว
· เรื่องถังขยะ ให้ใช้ถุงดำ เพราะสะดวก ทิ้งง่าย การทิ้งขยะ ให้ อบต. เป็นผู้รับผิดชอบ
· เรื่องการจราจร ใช้ อ.ป.พ.ร. ของหมู่บ้าน ไม่ต้องใช้ตำรวจ เอามาทำไม
· เรื่องหนังสือเชิญ ถ้าจะเชิญผู้ใหญ่ จะต้องแจ้ง ให้ทำหนังสือเชิญ แต่เป็นแบบไม่เป็นทางการ ส่งมาให้ที่วัดก็ได้ แล้ววัดจะส่งต่อให้ มี นายอำเภอแก่งคอย, ผู้ว่าฯ, นายก อบต.ห้วยแข้ง ในหนังสือควรแจ้งกำหนดการของเราว่า ทำอะไรตอนไหน ทำนองว่า ท่านสะดวกเวลาไหน ให้มาเวลานั้น แต่ถ้าให้ดี เราควรบอกไปว่า ผู้ใหญ่ทางฝ่ายเรามีใครบ้าง และแต่ละท่านมากันกี่โมง เพราะอยากให้ผู้ใหญ่ฝ่ายเรา กับผู้ใหญ่ฝ่ายสระบุรีได้เจอกัน
· เรื่องต้นไม้ต้นแรกที่ประธานจะปลูก จะมีพระสงฆ์สวดชยันโตให้ เช่นผู้ใหญ่ปลูกพร้อมกัน ๙ คน ๙ ต้น ก็จะมีพระ ๙ รูปไปประจำที่หลุม แล้วพระทั้งหมดก็จะสวดพร้อมๆกัน
· เรื่องพระที่จะนิมนต์มาฉันเพล มีไม่เกิน ๓๐ รูป
· เรื่องเครื่องเสียง ทางวัดจะจัดหามาให้
· เรื่องใบประกาศโฆษณางาน ให้ทางเราออกแบบให้ด้วย ทำเป็น CUT OUTใหญ่ และPOSTER พร้อมกับทำป้ายบอกทางด้วย เสร็จแล้ว ส่งแบบไปที่หลวงพ่อ ทางวัดจะจัดการพิมพ์ และออกค่าใช้จ่ายเอง
๑๕.๔๓ น. สิ้นสุดการคุยกับหลวงพ่อ เหมี่ยวรีบคว้ากุญแจรถแล้ววิ่งไป START รถรอเลย เรามุ่งหน้าไปต่อกันที่ วัดเขาขี้เหล็ก
เราเลี้ยวซ้ายออกมาทางถนนตัดใหม่ อ้อมไปทางสระบุรี เพื่อทำแผนที่ เหมี่ยวบอกที่สวยดี เราแวะซื้อกันคนละแปลงสองแปลงไหม ทั้งรถเงียบ แต่คนที่เงียบที่สุดก็คือพี่โหน่ง พวกเราถามว่าเป็นอะไร พี่โหน่งบอกว่า น้องคนนั้นเค้าหล่อดีเน๊อะ หมู่มวลเริ่มรำคาญมาก บอกนี่เรามาทำบุญกันนะ ในวัดก็ไม่เว้น พี่โหน่งก็เปรยๆเรื่องฝน เดี๋ยวตก เดี๋ยวไม่ตก เหมี่ยวบอกว่า จะบ่นทำไม พี่โหน่งบอก ไม่ได้บ่น แค่เปรยๆ ให้หมามันทัก ดีนะที่เหมี่ยวมันเข้าใจพี่โหน่ง ม่ายงั้นสงสัยมีการหักรถให้โดนชนด้านพี่โหน่งแน่
พอเรา U-TURN เพื่อไปทางสระบุรี พี่โหน่งตะโกนเสียงดังมาจากข้างหลังอีกว่า นี่เราไม่ไปวัดแล้วเหรอ เราจะแวะกินข้าวที่เกียวอันกันใช่ไหม ดีใจจัง หมู่มวลต้องอธิบายเป็นเวลานานว่า ที่เรามาทางนี้ เพราะต้องให้ผมทำแผนที่ต่างหาก ไม่ใช่ไปเกียวอัน
หลังจากระอากับพี่โหน่งแล้ว สักพักใหญ่ๆ เราก็เดินทางมาถึงวัดเขาขี้เหล็ก ระหว่างทางเห็นต้นข้าวกำลังหนุ่ม สีเขียวสวยงามมาก เชื่อว่าตอนที่เรามาทำบุญปลูกต้นไม้กัน พวกท่านก็คงจะเห็น ที่วัดเขาขี้เหล็ก ได้มีการถากถางบริเวณรอบๆวัดไปบ้างแล้ว เราเดินดูและถ่ายรูปเอาไว้ให้ดูกัน เมื่อถึงเวลาอันควรเราก็เดินทางกลับ เพราะพี่โหน่งบอกว่า ไม่อยากเสียค่าจอดรถที่ บองมาเช่ เยอะ
๑๗.๐๐ น. เราเดินทางออกจากวัดเขาขี้เหล็ก แวะดูและถ่ายรูปที่โรงเรียนวัดศรัทธาเรืองศรี และที่วัดบ้านไร่ สถานที่ๆพวกเราจะนำรถมาจอดกัน แล้วเดินทางกลับกรุงเทพ
ขากลับ เหมี่ยวหยิบ CD เพลงเก่า สมัย ๗๐’s พวกเราเริ่มกระชุ่มกระชวยกันอีกครั้ง ต่างคนต่างแหกปากร้องเพลงกัน เช่นเพลง IRON HORSE, SATURDAY NIGHT FEVER สลับกับเล่าว่า เพลงนี้ตอนนั้นเต้นยังไง เที่ยวกันที่ไหน แต่ส่วนใหญ่เหมี่ยวจะร้องเพลง สลับกับเสียงพี่โหน่งรำพึงเบาๆว่า “ตอแหล” เป็นระยะๆ พอเราถามว่าไปว่าเหมี่ยวทำไม พี่โหน่งบอก ไม่ได้ว่าเหมี่ยว ชั้นว่าเนื้อเพลงย่ะ เนื้อเพลงมันฟังแล้วตอแหล ดี่นะที่พวกเราเชื่อ
๑๘.๓๐ เราฝ่าฟันรถติดในกรุงเทพ มาถึง บองมาเช่ โดยสวัสดิภาพ ดีนะที่เหมี่ยวกับพี่โหน่งไม่ฆ่ากันเสียก่อน แล้วต่างคนต่างก็บอกว่า หิวข้าว อยากไปทานที่ เกียวอันอีก ก็เลยวางแผนกันว่า วันที่ ๑๑ และวันที่ ๑๒ ก.ค. นี้ เราจะไปสระบุรีกันอีก แล้วจะมาเล่าความคืบหน้าให้ฟังกันใหม่ครับ สวัสดีครับ
แก้ว ชาญวุฒิ
ผู้จดบันทึกทางบุญ