หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ฝากให้อ่าน‏


ฝากให้อ่าน‏
จาก:
koong thon (suntorn_46@hotmail.com) หลวงพ่อฤษึ
ส่งเมื่อ:
22 สิงหาคม 2551 19:46:28
ถึง:
SUPRAWAT PATAMASUT (korkanboon@hotmail.com)
.ExternalClass .EC_hmmessage P
{padding:0px;}
.ExternalClass body.EC_hmmessage
{font-size:10pt;font-family:Tahoma;}
ถึงแก้ว
ได้เปิดอ่านเมื่อสักครู่นี้แล้ว เป็นเรื่องดีนะ ถ้าหลายๆคนมาเป็นกวี ครื้นเครงดี ต่อกลอนแบบกลอนสด กลอนตลาด กลบทดอกสร้อย หรือจะเป็นโคลงสี่สุภาพ กาพย์ยานี ใครจะแต่งวสันตดิลกฉันท์ อินทรวิเชียรฉันท์มาด้วยิ่งดี สองฉันท์นี้ วางครุ ลหุไว้เพราะนัก เคยอ่านสมุทรโฆษคำฉันท์นานมากแล้วประมาณ 20 ปีผ่านมา จำได้ตอนพราหมณ์พรรณาถึงความงามของนางพินทุมวดีให้สมุทรโฆษฟัง ความว่า
-
"เจ้านั้นมีโฉมจะประโลม ทั้งแหล่งหล้าและฟ้าดิน
ทรงนามกรบวรพิน- ทุมวดีอันโฉมเฉลา
เสาวภาคยพ- นิดาคือสุธามาโกศเกลา
เนื้อเกลี้ยงสมบูรณ์บวร- เยาวอย่าว่าจะมีสอง ฯ
-
เรื่องพระสมุษโฆษนี้ เป็นบทประพันธ์แต่งครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยพระบรมราชโองการสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ให้พระมหาราชครูแต่ง ต่อมหาพระมหาราชครูพิราลัย สมเด็จพระนารายณ์ทรงพระราชนิพนธ์ต่อ ถ้าอ่านถึงบทสุดท้ายที่ทรงพระนิพนธ์แล้ว จับใจมาก ตนตายแต่ผู้เดียว ใครจะเหลลียวแลดู ประมาณนี้ชักจะลืมๆแล้ว บทประพันธ์เรื่องนี้ค้างมาเนิ่นนาน ถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า จึงทรงอาราธนาสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส วัดพระเชตุพน ทรงพระนิพนธ์ต่อจนจบ สมเด็จพระองค์นี้เป้นนักกวี เรียกได้ว่า เป็นรัตนกวี ที่องค์กรยูเนสโก ยกย่องพระองค์ บทพระนิพนธ์ที่จับใจทุกคนจาก กฤษณาสอนน้องว่า
-
พฤกภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัยหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
ความดีก็ปรากฏ กิติยศก็ฤาชา
ความชั่วก็นินทา ทุรยศยินขจรฯ
-
ถ้าพ่ออิ๊ดมาร่วมวงด้วยก็สนุกครื้นเครงกันดี ต่อไปรวบรวมเป็นเล่มไว้แจกงานบุญวัดเขาขี้เหล็กต่อไป.
หลวงพ่อฤษึ

ลองอ่านดู

เรื่องเล่าว่า... มีหลวงพ่อท่านหนึ่ง...คนนับถือมากเรื่องสอนธรรมง่ายต่อความเข้าใจ จนข่าวไปถึงคนเมือง.. วันหนึ่ง...พวกกรุงเทพฯ...เอากฐินไปทอดที่วัด... จัดงานกันใหญ่โต...มีหนัง...มีลิเก...มีดนตรี... ผู้คนแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน... ก่อนทอดกฐิน... ผู้คนมารวมกันเต็มศาลา...รอหลวงพ่อเทศน์ แต่งชุดอร่าม สวยๆงามๆ ตามแฟชั่น พกเครื่องทองเครื่องเพชรมากันเฉิดฉาย เดี๋ยวคนนั้นคนนี้รับโทรศัพท์มือถือ วุ่นวายอยู่ไม่ค่อยสงบสำรวม ก่อนขึ้นธรรมมาศน์ หลวงพ่อเรียกเด็กวัดมา... บอกให้ไปเอาเนื้อย่างจากโรงครัวมาก้อนหนึ่ง...แล้วเอาเชือกมาด้วย... หลวงพ่อบอกให้ลูกศิษย์จัดการ...เอาเนื้อ...ผูกติดกับหลังหมา... ผูกเสร็จ...ก็ปล่อยหมา ... หมาเห็นเนื้ออยู่บนหลัง...ก็ไล่งับ... พอหัวโดดงับ...ตัวก็ขยับหนี... เพราะหมามันกัดหลังตัวเองไม่ถึง... ยิ่งโดดงับเร็ว...ก้อนเนื้อก็หนีเร็ว... โดดไม่หยุด...เนื้อก็หนีไม่หยุด...จนเหนื่อยก็ยังงับไม่ถึงสักที แต่ก็ไม่ยอมหยุดงับ หมาตัวนั้นไม่ลดละที่จะพยายามงับชิ้นเนื้อเข้าปาก งับเท่าไหร่...เนื้อก็ไม่เข้าปากสักที... ผู้คนบนศาลา...พากันหัวเราะชอบใจ... เจ้าภาพกฐินหันไปสะกิดเมีย หัวเราะเยาะหมา...ว่าทำไมมันถึงโง่ยังงี้... ไล่งับ...จะกินเนื้อ...ที่ตัวเองไม่มีทางไล่ตามทัน ตลอดชีวิต... หลวงพ่อ...มองดูผู้คนที่มองอาการของหมา แล้วติออกความคิดกันด้วยความสนุกสนานจนเห็นเวลาอันควร.. ก็ให้ลูกศิษย์แก้เชือกออกมากหลังหมา...ให้เรียบร้อย แล้วหันมาพูดกับญาติโยมว่า... โยม..เคยคิดไหม.. ว่ามนุษย์เรา...มีความรู้สึกว่า...ตัวเองพร่อง...ตัวเองยังไม่เต็ม... ต้องเติมตลอดเวลา...เติมไม่หยุด...เพื่อให้ตัวเองเต็ม... เราอยากสวย...อยากทันสมัย... ไปหาซื้อเสื้อผ้าที่สวยที่สุด...ทันสมัยที่สุดใส่... ดีใจได้เดือนเดียว...มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว...สวยกว่า...ทันสมัยกว่า... อยากได้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่... ซื้อเสร็จ ๓ เดือน...รุ่นใหม่ก็โผล่มาอีกแล้ว... ซื้อคอมพิวเตอร์ทันสมัยที่สุด... ๒ เดือนต่อมา...มีรุ่นใหม่กว่าออกมา...ของเราตกรุ่น... ซื้อรถเบนซ์...ทันสมัยที่สุด...แพงมาก... ขับได้ ๖ เดือน...มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว... ทันสมัยกว่า...แพงกว่า...ของเรากลายเป็นเชย... เราต้องก้มหน้าก้มตา...ทำงานทั้งวัน ทั้งคืน...หาเงินมา... เพื่อมาทำให้ตัวเองทันสมัย... ซื้อเสื้อผ้าใหม่...มือถือใหม่...คอมพิวเตอร์ใหม่...รถยนต์คันใหม่... เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส... เพื่อไม่ให้ตัวเองตกรุ่น... ปัจจุบัน... เรากำลังไล่งับความทันสมัย...เหมือนหมาที่ไล่งับเนื้อบนหลังของมัน... ทั้งที่รู้ว่า...ต่อให้ไล่งับทั้งชีวิต...ก็ไม่มีทางตามทัน... น่าสงสารไหมโยม... นั่นแหละกิเลสล่ะ.. มันก็เลยดิ้นไปไม่รู้จักหยุด ไม่รู้จักสิ้นสุด ไขว่คว้าสิ่งที่ไม่อยู่ในมือ.. ถ้าไม่แก้ไอ้เชือกที่มันมัดอยู่ออก ก็ดิ้นรนไป ใจไม่สงบ ไม่หยุดแล้วใครที่ไหนจะมาช่วยได้... คนเต็มศาลา...เมื่อกี้หัวเราะครึกครื้น... ด่าว่า...หมามันโง่... ตอนนี้เงียบสนิท...เหมือนไม่มีคนอยู่... เจ้าภาพลุกขึ้นกราบหลวงพ่อ คนอื่นๆก็กราบตามกันหมด.. ไม่รู้ว่าคิดอะไร...

อักษรรจนาจากหลวงพ่อฤษี


ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...
-
ครั้นได้พบรจนาภาษาศิลป์
อยากยลยินอยากเอ่ยถามนาม"ฤษี"
ด้วยศัรทธาพร้อมเชื่อมั่นบารมี
ข้าน้อยนี้ใคร่รู้บูชาดุจอาจารย์
Wylsmith@hotmail.co.uk
สิงหาคม 20, 2008 7:12 ก่อนเที่ยง
- - - - - - - -
KAEW OSK 98 กล่าวว่า...
-
ได้เอ๋ยได้อ่าน
คำขาน ของคุณ แล้วหนา
แต่ไม่ ระบุ นามา
แล้วข้าฯ จะตอบ กับใคร
ได้เรียน หลวงพ่อ ฤษี
ถึงที่ มีคน ขานไข
หลวงพ่อ ท่านแสน ดีใจ
ทักทาย กันได้ ในทางบุญ
หากมี สิ่งใด อยากถาม
หรืออยาก ขอความ เกื้อหนุน
ไม่ต้อง เกรงใจ หรอกคุณ
เวปก่อ การบุญ ยินดี
แก้ว ชาญวุฒิ
สิงหาคม 20, 2008 9:43 หลังเที่ยง
- - - - - - - - -
ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...
-
ขอก้มกราบ ทราบซึ้ง ถึงไมตรี
แสนยินดี ที่ท่านรับ สดับนัยย์
ทั้งสนใจ ใคร่ตอบ ชอบเรียงความ
แม้ผู้ถาม ลืมใส่ชื่อ หาถือไม่

ตัวกระผม คนดำ นาม"Wylsmith"
ทั้งมวลมิตร พร้อมส่งเสริม เติมสิ่งสรร
อยากร่วมบุญ ร่วมสร้าง ทางสัมพันธ์
ร่วมก่อกัน ก่อการบุญ คุณความดี
ข้อปุจฉา หามีความ สำคัญไม่
เพียงคาใจ ในที่มา นาม"ฤษี"
ผมเชื่อมั่น พร้อมศัรทธา บารมี
ยิ่งยินดี หากได้รู้ ความหมายนาม
จะสิ่งใด ให้ร่วมการ โปรดแจ้งข่าว
จะค่ำเช้า จะหนใด ให้ Mail หา
พร้อมเต็มใจ ไม่รั้งรอ ไม่ลีลา

ช่วย Mail มาให้ที่ Wylsmith@hotmail.co.uk

(ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปร่วมงานปลูกต้นไม้ในวันที่ 12 ที่ผ่านมานี้
ผมประทับใจในวิธีการทำบุญที่ยั่งยืน และเป็นประโยชน์ต่อสังคม
ผมตั้งใจจะร่วมทำบุญด้วยในทุก ๆ โครงการที่ก่อการบุญจะดำเนินการ)
สิงหาคม 21, 2008 6:48 ก่อนเที่ยง
- - - - - - - -
เมื่อคุณถามนามพระฤาษี
ด้วยยินดีแถลงคำขานไข
เพื่อให้หายขัดข้องห้องหัวใจ
เพื่อได้ให้รู้นามตามวจี
ที่มา ว่า ฤษี นี่น่ะหรือ
กล่าวจริงคือ ไม่ฉันภัตตาหาร
อดบ้างฉันบ้างดูพิการ
รูปกระหร่องบ้างเดินโย่งเย่งเป็นพิกลฯ
จะอรรถาธิบายอย่างให้รู้ง่าย
ยากธิบายให้แจ่มใจในกังขา
รู้สั้นๆว่า ทุกกิริยา
ตอนนั้นบ้าบอบวมหลวมตัวทำฯ
ขออนุโมทนาบุญ จะตัวดำ ตัวขาว ตัวสูง เตี้ย สวย ไม่สวย หล่อไม่หล่อ ไม่ใช่สำคัญ สำคัญที่ความพร้อมของกาย ใจ ที่จะอุทิศให้พระพุทธศาสนา สิ่งที่ทำไม่ใช่ประโยชน์ของใครส่วนตัว แต่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ ต่อแผ่นดินไทย ที่นี่ไม่มีพรรคการเมือง ไม่แบ่งฝ่าย แบ่งขั้ว ทุกคนเป็นกัลยาณมิตรของกันและกัน ขอเพียงเปิดใจรับ เป็นประโยชน์ทั้งภาพนี้ ภพหน้า
ไปเม้นไม่ได้ฝากถึงคุณตัวดำ Wylsmith ขออนุโมทนาตามข้อความข้างบน วันนี้ ที่กลอนมีความหมาย ดังนี้ ท่อนแรกสี แสดงความเป็นปกติ ท่อนต่อมาสีเริ่มจะเพี้ยน ท่อนสีแดงแสดงว่า บ้าได้ที่แล้ว 5555+++ หลวงพ่อฤษี
- - - - -
1 ความคิดเห็น:
ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...
-
ครั้นทราบความ ตามท่านไข กระจ่างจิต
"Wylsmith" ซึ้งใจ เป็นนักหนา
ขอขอบคุณ บุญนั้น ท่านเมตตา
ได้นำพา ให้พบพาน ก่อการบุญฯ
อีกได้ทราบ ถึงโครงการ สร้างบุญใหญ่
หนุนนำให้ ดวงจิต คิดกุศล
ขอมีส่วน ร่วมสร้าง"โบสถ์" ด้วยสักคน
อยากเห็นผล พร้อมมวลชน ร่วมยินดี
-
ด้วยความสามารถด้านบทกวีผมมีน้อยนิด
ถ้ามีสิ่งใดผิดพลาด ช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ

ขอนุญาตนำมาเผยแพร่

เนื่องด้วยเวปก่อการบุญของเรา เริ่มมีนักกวีหลายท่านได้ฝากผลงาน รจนาภาษาศิลป์กัน ผมอดไม่ได้ที่จะนำมาเผยแพร่ให้ผู้อ่านทุกท่านได้สัมผัสภาษากวี และดื่มด่ำไปกับคุณค่าและความหมายที่นักกวีทั้งหลายต้องการสื่อครับ และที่สำคัญ พี่อี๊ด หรือพ่ออี๊ดของเรา ก็เป็นนักกวีตัวยง หาตัวจับยาก ท่านได้อ่านบทกวีทุกบทด้วยความคันไม้คันมือคาดว่าหากท่านว่าง ท่านต้องกระโดดลงมาพรรณาเรียงร้อยถ้อยคำกับพวกนักกวีทั้งหลายด้วยเป็นแน่แท้ครับสำหรับบทกวีทั้งหลาย อยู่ในป้ายกำกับว่า "เรียงร้อยถ้อยคำ" ครับ
ขอบคุณครับ
ก่อการบุญ

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

บทกวี นำมาจาก HI5

Aug 15, 2008 8:16 PM
KRoNgKaeNg says:
ต้นปลูกกัลปพฤษ์ดอกสวยสด
ช่างงามงดเก้าร้อยต้นดลวิถี
ปลุกเริ่มต้นสิบสองสิงหามหาราชินี
นิมิตดีก่อการบุญอุ่นใจในบุญทาน
ทุกคนเสียสละกำลังเวลาทรัพย์
ยากจะนับคุณค่ามหาศาล
มาด้วยใจยากตีค่า ตีด้วยงาน
มาสืบสานก่อการบุญหนุนความดี
ก่อนงานฝนตกหนักพร่ำถึงเช้า
เมื่อถึงคราวเข้าพิธีมีสีสัน
ฝนไม่ตกแดดจ้าตลอดวัน
ผลบุญนั้นสำแดงแจ้งประจักษ์
ทุกคนทุกฝ่ายได้มาช่วยอำนวยการ
ให้พ้นผ่านราบรื่นดีมีสุขสันต์
ฝ่ายบ้านฝ่ายวัดจัดช่วยเหลือกัน
ราชการพลันร่วมด้วยช่วยโมทนา
Aug 17, 2008 10:53 AM
KRoNgKaeNg says:
เริ่มตันปลูกต้นไม่แผ่ร่มเงาในเนาว์สถาน
ต่างจัดการคนแรงอย่างแข็งขัน
กัลปพฤษ์ สารภี มีคู่กัน
มะตาดพลันมาด้วยช่วยร่มเงา
ประดู่แดง ขี้เหล้กก้ได้ปลูก
จิตพลันผุกแอยากเห็นร่มพฤกษา
เมื่อเติบใหญ่มีดอกดวงพวงผกา
จะรอกว่าเห็นร่มเงาแผ่ใบบุญ
ดูความเห็นของคุณกับ ooSUNIoo
20 ส.ค. 2551, 14:03 น.
ooSUNIoo พูดว่า:

เรายินยอมพร้อมใจที่จะช่วย
เพื่อนๆด้วยต่างพร้อมเพียงเคียงสมานฯ
ฝันวันหนึ่งอุโบสถงามตระการ
คือสถาน ก่อการบุญ หนุนชีวี
คุณเป็น 1ในผู้อยู่เบื้องหลัง
คือพลังนำจิตสมศักดิ์ศรี
เป็น1ใน ผู้ก่อ บุญดีๆ
เผยโฉมทีจะได้ไหม?เผื่อได้เจอ

บทกวี นำมาจาก http://korkanboon.hi5.com

เพื่อนๆใน HI5
ได้แต่งกลอนCOMMENT
เกี่ยวกับวันงาน
ผมเห็นว่าเห็นว่าไพเราะดี
เลยนำมาลงให้อ่านกันครับ

KRoNgKaeNg says:
Posted Aug 20, 2008 2:17 PM
เสียงพิณพาทย์ฆ้องวงดังวังเวงหวาน
เสียงขับขานเพลงเพราะเสนาะหู
สามเสียงต่างขับเพราะเสนาะขอเชิดชู
เป็นแบบครูแบบอย่างของทางไทย
เพลงที่ขับนับเป็นนิมิตหมาย
งามเฉิดฉายปณิธานก่อการใหญ่
ทุกถ้อยร้อยรสพจน์มาลัย
ดังจินดามัยให้สำเร็จเด็ดดวงดี
อาจารย์สุดจิตต์ดุริยประณีต
เสียงท่านกรีดเพราะเสนาะขาน
ท่านที่สองร้องต่อมาด้วยชำนาญ
ท่านสามขานสะสมอบรมกลอน
ทุกเนื้อถ้อยร้อยมาจากดวงจิต
ช่วยกันคิดคนละท่อนจนอ่อนหวาน
เป็นเนื้อร้องแสดงถึงปณิธาน
มาก่อการบุญต่อไปด้วยใจจริงฯ
สาธุ

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ขอกราบขอบพระคุณพระคุณเจ้า

นอกจากนี้แล้ว คณะก่อการบุญ ต้องกราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าอีกหลายรูป ที่ร่วมกันจัดงานในครั้งนี้
รายนามพระสงฆ์ที่ช่วยงานหลักๆ
๑.พระสุธีวราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย เจ้าคณะอำเภอแก่งคอย
๒.พระมหาประพันธ์ศักดิ์ ทิฏฐิวิสุทธี เจ้าอาวาสวัดเขาขี้เหล็กรักษาการ
๓.เจ้าอธิการสมบัติ เจ้าอาวาสวัดใหม่สามัคคี ได้ส่งคณะสงฆ์มาช่วยผูกผ้าระบาย
๔.พระอาจารย์สิริพงษ์ สำนักปฎิบัติธรรมเทพนิมิต ช่วยสนับสนุนอาหารก่อนงาน
๕.คณะสงฆ์วัดเขาขี้เหล็กทุกรูป คนงานวัดพระพุทธฉาย
๖.พระสมุห์ธวัชชัย ปภาโส เจ้าอาวาสวัดท่ามะปราง
จัดต้นประดู่แดง สารภี ขี้เหล็ก และมะตาด รวม ๒๐๐ ต้น
และเบื้องหลังที่ต้องกล่าวขอบคุณเป็นพิเศษอีก ๓ ท่าน
๑.คุณสุรีย์ แก้วคูณงาม ช่วยสนับสนุนอาหาร
ตั้งแต่วันที่ ๔ ถึงวันที่ ๑๑ สิงหา และอื่นๆ
เบ็ดเสร็จประมาณ ๔- ๕ หมื่นบาท
๒.คุณสำเนียง ยี่สาคร ช่วยนำกำลังมาถางป่ารอบๆวัดก่อนงาน
รวม ๓ ครั้ง ใช้เงินไปหลายหมื่นบาทเหมือนกัน
และวันงานนำข้าวโพดต้มมาช่วยด้วย อร่อยมาก
๓. ทพญ.วีนัส อัศวานุชิต นำขนมจีน และข้าวหลามหนองมนมาร่วมงาน ขอบอกว่า ทั้งขนมจีนและข้าวหลาม อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆ ขออนุโมทนาครับ

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2551

MAIL จากหลวงพ่อฤษี

ดีใจในวันปลูกกล้าไม้
สิบเอ็ดสิงหามาถึงตามเป้าหมาย
ต่างขวนขวายก่อการบุญหนุนกุศล
เริ่มต้นเตรียมที่ เตรียมงานกันทุกคน
ตามยุบลพ่ออิ๊ดสั่งจึงทำตาม
มาพร้อมกันด้วยต้นกัลปพฤกษ์กำหนด
ต้นงามงดเขียวดีน่าเกรงขาม
เสียหน่อยเดียวอ่อนลู่ลมเอนตาม
ต้องช่วยด้ามช่วยผูกตรึงจึงอยู่ทน
แก้ว อ้อย แป้ง เหมี่ยว ไม่เลี้ยวลด
ใจกำหนดมาทำงานทั้งฝึกฝน
ฝึกที่กายใจให้สู้ด้วยอดทน
โชติหิรัญมิบ่นวางงานตามสายงาน
แหม่มจินมาด้วยช่วยทำการงานนี้
ให้ดูดีวางแผนช่วยจัดสรร
ถึงวันงานสิบสองยุ่งสาระพัน
แต่ในวันนั้นทุกคนล้วนปรีดาพาอวยพร
อาหารมากมายหลายอย่างจัดมา
อิ่มถ้วนหน้าอิ่มใจไม่อาวรณ์
ต่างช่วยตำ ช่วยตัก ช่วยค้นอย่างสลอน
หน้าไม่งอนไม่ง้ำ งามตามสบาย
อยากเอ่ยปากชื่นชมทุกคนที่มาช่วย
มาอำนวยสรรพกิจสัมฤทธิ์หมาย
เก็บเอาไว้ซึ้งในใจจวบวางวาย
ทั้งหญิงชายหนุ่มแก่แน่จริงจริง
ขออาราธนาคุณพระไตรรัตน์พิพัฒน์โภค
อำนวยโชคสรรพกิจสำเร็จสิ่งขอให้ห่างโรคา
สบายกายใจจริง ขออย่าทิ้งร้างห่างกันไกล
ขอกิจการงานที่ทำทวีพัฒน์
ได้วิวัฒน์รุ่งเรืองอย่างยิ่งใหญ่
ขอให้เงินทองสมดวงหทัย
คิดสิ่งใดสมจินต์ทุกสิ่งเทอญฯ
ลองแต่งดูไม่เข้าท่าอย่าว่ากัน ตามประสาพระบ้านนอก
แต่งสดๆๆๆแต่งไปพิมพ์ไป
หลวงพ่อฤษี
๑๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑

วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2551

วัดเขาขี้เหล็ก ในอดีต และปัจจุบัน


วันที่๙ สิงหาคม ๒๕๕๑ องค์ ๒

เสื้อ "ก่อการบุญ" เสร็จแล้ว จาก ELLE และ ELLE HOMME
โดยกุ้งนาง และ เบ๊กกี้ครับ
ปรึกษาหารือ ไม่รู้เรื่องอะไร
ชี้แจงเรื่องที่ปลูกต้นไม้ของ VIP
ถางไปเกือบหมดแล้ว
พี่น้อยกับพี่ชัยวัฒน์ หัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญอีกคู่หนึ่ง
ประชุมเครียด
สามสาวมาแว้ววววววววว
พี่น้อย ท่านนายอำเภอชายชาญ และท่านเจ้าคุณ
คนนี้เครียดหนักไม่เป็นอันกินอันนอน
วิวสวยมากกกกกกก มองจากบริเวณวัด
ล้อเกวียนถูกนำมาเก็บไว้ที่นี่
ปลัดวินิจฉัย กับพี่โชติหิรัญ
พี่น้อย คนที่มาพบวัดนี้เป็นคนแรก
โอ้........ท่านนายอำเภอครับ ท่าปาดเหงื่อยังเท่เลย
งานนี้ท่านนายอำเภอก็ทุ่มเต็มที่

วันที่๙ สิงหาคม ๒๕๕๑ องค์๑

ท่านเจ้าคุณประชุมเครียด
เก้าอี้มาแล้ว
แบกกันไป ขนกันไป
จากจับปืน มาจับจอบ
สู้ตายครับ
สามหนุ่ม สามมุม
อาณาเขตวัด มีคลองน้อยๆด้วย
หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน
หยาดเหงื่อและแรงงานทหารไทย
เท่ซะไม่มี
เจอเห็ดมากมาย ลาภปากทหารเค้าล่ะ
อุปสรรคใหญ่คือ หินก้อนโตๆ ขุดยาก
หลวงพ่อฤษีตรวจงานไปทั่ว
กำลังตั้งเต๊นท์พิธีการ
มีรถ ขุดดินมาช่วยด้วย
เหนื่อยไหม.....สิ่งที่เธอทำอยู่
วิวสวยจัง
หลวงพ่อเดินตรวจทั้งวัน เหมือนไม่รู้จักเหนื่อย
เหลืออีกแค่ ๓ วันเท่านั้น ก็จะถึงวันงานสำคัญแล้ว วันนี้เราเลยนัดกันมาดูสถานที่
เพราะเหล่าทหารหาญจากกรมทหารม้าที่ ๔ และที่๕ รักษาพระองค์ ได้เข้ามาช่วยกันปรับพื้นที่
เพื่อทำการขุดหลุมไว้ปลูกต้นไม้ งานลุล่วงไปได้ประมาณ ๗๐-๘๐% แล้ว
อุปสรรคสำคัญของการขุดหลุมก็คือคือก้อนหินใหญ่ๆมากมาย
ทำให้เราไม่สามารถรักษาระยะห่างของหลุมที่จะปลูกต้นไม้ให้เป็นระยะเดียวกันได้

KORKANBOON NEW LOGO


นุ้ยได้ออกแบบLOGOของก่อการบุญขึ้นมาใหม่

ตัดปริมาณใบโพธิ์ให้น้อยลง

ขยายใบให้ใหญ่ขึ้น สวยจัง

ใกล้วันงานเต็มทีแล้ว ๓

จินตหราร่าเริง งานใกล้เสร็จแล้วนี่
SNOW BLACK กับทหารทั้ง๔
อ้อยยืนงง จะจัดต้นไม้ยังไงดี ตั้งเกือบพันต้น
หลวงพ่อกับเส้นทางธรรมอันยาวไกล
ดูแลต้นไม้ให้เรียบร้อย
พี่โชติหิรัญกำลังดูทำเลที่ทหารขุดหลุมเอาไว้
BLACK AND WHITE
ฝนตั้งเค้ามาแล้ว งานก็ยังไม่เสร็จ
ดุ๊ก แจง กับนุ้ย ตามมาตอนกลางคืน
ประชุมสรุปงาน

ใกล้วันงานเต็มทีแล้ว ๒


เตรียมมาทำน้ำตก
ตรวจงาน
เอาขนมมาฝากทหาร
ลานปฎิบัติธรรม
น้ำตกเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
ฝ่ายการเงิน กำลังหาที่วางกล่องบริจาค ปลัดวินิจฉัยก็ตรวจงานเข้ม
ร่วมกันก่อการบุญ
ท่านนายอำเภอชายชาญคนขยัน(เสื้อดำ)
คุณนายนายอำเภอก็ร่วมแรงด้วย
เร่งมือกันหน่อยค่ะ
คุณนายก็สู้ไม่ถอย
ผูกเชือกแบ่งZONE สีของต้นไม้
มีคน มีต้นไม้......... มีสัตว์ป่า
ทำท่อประปาไว้รดน้ำ